วงเสวนาเซียนหุ้นประเมิน SET Index ครึ่งปีหลังยังผันผวน เชื่ออาจได้เห็น peak รอบใหม่ก่อนวิกฤต เนื่องจากอาจจะเป็น Cycle สุดท้ายก่อนเกิดวิกฤต ซึ่งเคยเกิดขึ้นทุก 10 ปี โดยคาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะเข้าสู่ Cycle ดังกล่าวอีกครั้ง เตือนถือเงินสด และควรเลี่ยงหุ้นเก็งกำไร
นายปุณยวีย์ ประเมิน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดต่างประเทศ และ Fund Flow กล่าวในงานเสวนาโดยทีมค้ชโครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ในหัวข้อ “กลยุทธ์รับมือความผันผวนลงทุนครึ่งปีลิง” โดยมองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังน่าจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูงในกรอบ 1,200-1,600 จุด เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน
สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หากมีการปรับขึ้นตามที่คาดการณ์ก็จะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ในช่วงสั้น แต่หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็เป็นการสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ และมีความเสี่ยงเกิดวิกฤตทางการเงินรอบใหม่ โดยจะเห็นได้จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หากปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีนัยสำคัญก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในสินทรัพย์เสี่ยง และถือว่าเป็นสัญญาณการก่อตัวของวิกฤต
ในส่วนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะยังมีแค่ Passive fund ที่ไหลเข้าหุ้นไทย โดยเน้นเข้ามาลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลสูง แต่ Agressive Fund ยังคงเข้ามาน้อย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ในประเทศที่จูงใจมากพอ โดยจะต้องรอดูการลงทุนของภาครัฐในเชิงปฏิบัติ รวมถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นได้ให้กลับมาอีกครั้ง
ด้าน นายโสรัตน์ วณิชวรากิจ นักลงทุนหุ้นคุณค่า (VI) มองว่า อาจจะเห็นการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยรอบใหญ่อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ให้ระมัดระวังเนื่องจากอาจจะเป็น Cycle สุดท้ายก่อนเกิดวิกฤต ซึ่งเคยเกิดขึ้นทุก 10 ปี โดยคาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่ Cycle ดังกล่าวอีกครั้ง
“หลังจากต้มยำกุ้ง ก็มีแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งจังหวะมันเกิดขึ้นช่วงครบรอบ 10 ปีพอดี และทรงของดัชนีก็จะเป็นเหมือนปัจจุบัน คือ ขึ้นไม่สุดลงไม่สุด เล่นยากๆ และจะ peak รอบใหญ่ก่อนเกิดวิกฤต ซึ่งปัจจัยต่างๆ ที่จะเป็นข่าวดียังไม่มีให้เห็นอย่างมีนัย มีแต่ข่าวลบตลอด ช่วง 1-2 ปีนี้ต้องระวัง ทางที่ดีควรถือเงินสดอย่างน้อย 20-30% เพื่อป้องกันความเสี่ยง”
ส่วน น.ส.กนิษฐา รอดดำ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนด้านเทคนิค ระบุว่า ในทางเทคนิค 3-6 เดือนข้างหน้าภาวะตลาดหุ้นไทยถือเป็นขาลงหลังปรับตัวขึ้นมารอบใหญ่จากระดับต่ำในช่วงต้นปี โดยให้แนวรับในระยะดังกล่าวที่ 1,300 จุด แนวต้าน 1,450 จุด หากสามารถทะลุแนวต้านได้จะถือเป็นขาขึ้นรอบใหม่
ขณะที่ นายวัชระ แก้วสว่าง หรือเสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ แนะนำให้จัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นเพียง 20-30% ของพอร์ต เนื่องจากตลาดฯ ยังมีความผันผวนสูง หลีกเลี่ยงหุ้นเก็งกำไรที่ผลประกอบไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น โดยเน้นใช้กลยุทธ์แบบ Selective buy ทั้งนี้ ส่วนตัวเริ่มกลับมามองหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว แม้จะปรับตัวลงบ้างในบางช่วงแต่ก็ไม่ลึกมากนัก สะท้อนว่าน่าจะสิ้นสุดขาลงแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังตั้งฐานเพื่อฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้หลายๆ บริษัทราคาหุ้นได้สะท้อนราคาน้ำมันไปมากพอสมควรแล้ว