อดีตเลขาฯ อังค์ถัด มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ และปีหน้ายังไม่ฟื้น เห็นได้จากไอเอ็มเอฟเตรียมปรับลดประมาณการ โดยยอมรับว่า ได้มีการประเมิน และหารือกับนักวิเคราะห์ทั่วโลกแล้ว มองตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้ และปีหน้ายังไม่ฟื้นตัว พร้อมเชื่อว่าเอเชียจะเป็นเสาหลักหนุนเศรษฐกิจโลกให้เติบโต
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) กล่าวว่า เท่าที่ตนเองมีการประเมิน และหารือกับนักวิเคราะห์ทั่วโลก มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ และปีหน้ายังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกใหม่ จากเดิมโตกว่าร้อยละ 3 และคาดว่าปีนี้จะลดเหลือร้อยละ 2 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลก สหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น ยังมีปัญหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่หลายฝ่ายมองว่า จะมีอัตราการเติบโตแบบอัดฉีดเงินในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะเงินที่อัดฉีดเหล่านี้จะไปกระจุกตัวเพียงชนชั้นใดชนชั้นหนึ่งเท่านั้น ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังมีปัญหาค่อนข้างหนัก ดังนั้น เศรษฐกิจทั้ง 3 ประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ในกลุ่มเอเชียยังมีการค้าขาย และเติบโต จึงถือว่าเศรษฐกิจเอเชียหนุนเศรษฐกิจโลก
ส่วนเศรษฐกิจจีน แม้อัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6-7 ถือว่ายังมีเสถียรภาพ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนแม้จะเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ แต่เป็นการเติบโตแบบแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้มีเงินทุนสำรองมากที่สุดในโลก แต่มีเงินไหลออกค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นการออกลักษณะไปลงทุน และถือเงินเข้ามาลงทุนในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ไทย ลาว และกัมพูชามากสุด คาดหวังว่าจีนจะไม่ลดค่าเงินหยวนมากเกินไป เพราะเงินหยวนยังสามารถทำให้เศรษฐกิจอาเซียน และเอเชียไปได้ดี
อย่างไรก็ตาม จีนยังเป็นตลาดสำคัญของไทย และกลุ่มอาเซียน เพราะในอนาคตไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร การค้าขายผ่านเอเชีย และอาเซียนยังเป็นจุดสำคัญ และไทยถือว่ายังมีโอกาสขยายการค้า และไทยเป็นกลุ่มที่จีนจะเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน