เผยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคช่วงนี้ ยังเป็นเรื่องเยนแข็ง และเงินเฟ้อจีนต่ำกว่าคาด

หุ้นปิดบวก 0.20 จุด ภาพรวมทรงตัว โดยมีหุ้นพลังงานช่วยพยุงตลาด แต่มีแรงขายบิ๊กแคปบางตัวถ่วงดัชนีฯ ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคช่วงนี้ ยังเป็นเรื่องความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนแข็งค่า และตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ของจีนที่ต่ำกว่าคาด แนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งแคบก่อนหยุดยาว

นายทรงกลด วงศ์ไชย ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 เม.ย.) เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยภาคเช้ามีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดภาคเช้า แต่ในช่วงบ่ายได้ปรับตัวลงอยู่ในแดนลบเล็กน้อย และสามารถกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ โดยปัจจัยหนุนนั้นมาจากราคาน้ำมันที่มีการปรับขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ยังมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่บางตัว อย่างเช่น SCC และ ADVANC ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มาก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้มีบางตลาดหุ้นที่ดัชนีเป็นบวก และบางตลาดหุ้นดัชนีเป็นลบคละกัน โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคช่วงนี้ยังเป็นเรื่องความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนแข็งค่า และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมีนาคมของจีนที่ประกาศออกมาแล้ว อยู่ที่ 2.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5%

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,369.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 28,725.98 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) คาดว่า ดัชนีจะยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับวันนี้ โดยปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอาจจะยังเป็นแรงหนุนให้ดัชนีได้อยู่บ้าง ส่วนปัจจัยอื่นๆ ทั้งภายใน และภายนอก มองว่าไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) เป็นวันสุดท้ายก่อนปิดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของตลาดหุ้นไทย พร้อมให้แนวต้าน 1,380 จุด แนวรับ 1,365 จุด