ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาดีดตัวขึ้นเล็กน้อย จากระดับ $1,230 เหรียญเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่บริเวณ $1,238 เหรียญ (ณ วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ.2559 เวลา 11.00 น.) หรือปรับขึ้นประมาณ $8 เหรียญต่อออนซ์ โดยได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด สาขานิวยอร์กในช่วงปลายสัปดาห์ที่ไม่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
แม้ราคาทองคำในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จะปรับลงไปแตะ $1,214 เหรียญต่อออนซ์ จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับลงเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ จากสัปดาห์ก่อนหน้า ก่อนที่ปลายสัปดาห์ราคาทองคำยังดีดตัวขึ้นได้จนมายืนในแดนบวกในรอบสัปดาห์ที่ $1,238 เหรียญ เพิ่มขึ้นประมาณ $8 เหรียญต่อออนซ์ จากตลาดที่ตอบรับมุมมองของประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ที่ให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว และในที่ประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา ก็มีเจ้าหน้าที่เฟดที่มีความขัดแย้งต่อความคิดเห็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นอยู่พอสมควร ส่งผลให้ราคาทองคำดีดกลับมาบวกได้ในช่วงค่ำคืนวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา
แม้สัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน แต่เนื่องจากราคาทองคำโลก และตลาดเงินโลกยังคงเปิดซื้อขาย ทำให้ราคาทองคำโลก และในไทยยังคงผันผวนตามปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก
ค่าเงินบาทแข็งค่าทรงตัวเท่าเดิมจากสัปดาห์ก่อน ล่าสุด อยู่ที่ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง
คำแนะนำ สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น หลังจากซื้อคืนบริเวณ $1,190 เหรียญต่อออนซ์มาได้ ราคาทองคำขึ้นไปไม่ถึงเป้าหมายบริเวณ $1,280 เหรียญ ทำให้ต้องขายทำกำไรออกไปเมื่อหลุดจุดแนวรับที่ $1,225 เหรียญ ในระยะสั้น ให้รอซื้อทองคำคืนอีกครั้งบริเวณ $1,190-1,210 เหรียญ เพื่อรอทำกำไรรอบใหม่บริเวณ $1,280 เหรียญชึ้นไป แต่หากหลุดต่ำกว่า $1,180 เหรียญ ให้ตัดขาดทุนทันที สำหรับระยะยาว ยังแนะนำให้สะสมทองคำแท่งราคาต่ำกว่า $1,180 เหรียญได้ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แล้วความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะมีมากขึ้น โดยเป้าหมายภายในปีนี้ยังอยู่บริเวณ $1,310-1,320 เหรียญ
