กรมธนารักษ์ ชี้เหรียญกษาปณ์ที่หายไปจากระบบหมุนเวียน 10% ถูกทิ้งไว้ตามบ้านเรือน เตรียมเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ โดยตั้งเครื่องนับ และรับแลกเหรียญตามห้างสรรพสินค้า และสาขาแบงก์ โดยจะออกสลิปเพื่อให้ผู้แลกนำไปขึ้นเงินต่อไป คาดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เหรียญ และช่วยลดต้นทุนการใช้พนักงานของกรมธนารักษ์ที่ดูแลในเรื่องนี้
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประชาชนมีเหรียญกษาปณ์ที่เก็บไว้ที่บ้านเพราะความไม่สะดวกในการนำมานับแลกเหรียญเปลี่ยนเป็นธนบัตร ส่งผลให้เหรียญกษาปณ์เหล่านี้ถูกวางไว้ที่บ้านมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนเหรียญกษาปณ์ทั้งหมดที่ผลิตออกมา มูลค่ารวม 54,000 ล้านบาท และทำให้กรมต้องผลิตเหรียญเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมธนารักษ์โดยส่วนบริหารเงินตรา จึงศึกษาการบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์สมัยใหม่ที่มีการดำเนินการอยู่ในต่างประเทศ ที่เปิดโอกาสให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ทั่วประเทศ โดยเอกชนจะตั้งเครื่องนับ และรับแลกเหรียญตามห้างสรรพสินค้า และสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จากนั้นจะออกสลิปเพื่อให้ผู้แลกนำไปขึ้นเงินต่อไป
สำหรับเหรียญที่รับแลกแล้วจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหรียญชำรุดออก และทำความสะอาดเหรียญที่ยังสมบูรณ์เพื่อบรรจุถุงเพื่อนำกลับไปใช้ในระบบเศรษฐกิจประเทศต่อไป
กรมธนารักษ์ เห็นว่า ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เหรียญกษาปณ์ และช่วยลดต้นทุนการใช้พนักงานของกรมธนารักษ์ดูแลในเรื่องนี้ และที่สำคัญ ยังช่วยลดจำนวนเหรียญกษาปณ์ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้ลดลงได้ ช่วยลดการผลิตเหรียญกษาปณ์ได้อีกทางหนึ่ง เพราะปัจจุบัน เหรียญที่มูลค่าต่ำต้นทุนสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญ กรมธนารักษ์ขาดทุน ยกเว้นเหรียญที่มีมูลค่าสูงเท่านั้นที่กรมธนารักษ์จะมีต้นทุนต่ำกว่าราคาหน้าเหรียญ