ธอส.เริ่มทำสัญญาโครงการบ้านประชารัฐ 1.2-1.5 ล้านบาท คาดอนุมัติวงเงินหมดภายในกลางเดือน พ.ค. พร้อมรับ ธปท.ห่วงเกณฑ์ปล่อยกู้ 3 แบงก์รัฐ สั่งคลังเรียกหารือเพื่อกำหนดเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
นายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (28 มี.ค.) เป็นวันแรกที่มีประชาชน 5 รายแรกเข้ามาทำนิติกรรมสัญญาเงินกู้ตามเงื่อนไขโครงการบ้านประชารัฐ ที่ ธอส.สำนักงานใหญ่ วงเงินรวม 3,428,000 บาท โดยข้อมูล ณ วันที่ 25 มีนาคม 2558 มีประชาชนเดินทางมาติดต่อสอบถาม และแจ้งความประสงค์ยื่นกู้รวม 8,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 6,700 ล้านบาท เข้าสู่กระบวนการพิจารณาแล้ว 300 ราย วงเงิน 280 ล้านบาท คาดวงเงินสินเชื่อโครงการบ้านประชารัฐของ ธอส.จะหมดภายในกลางเดือนพฤษภาคม ส่วนจะมีการพิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อเพิ่มหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอประเมินภาพรวมก่อนที่จะเสนอให้บอร์ด ธอส.เป็นผู้พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ประชาชนเข้ามาขอยื่นกู้มีทั้งที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง และมือสอง ราคาประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ซึ่ง ธอส.มีการพิจารณาสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร โดยพิจารณาความสามารถการผ่อนชำระเป็นหลัก ประกอบกับตรวจสอบสิทธิของผู้เข้าร่วมโครงการที่ต้องเป็นบ้านหลังแรก โดยใช้เกณฑ์การตรวจสอบเช่นเดียวกับโครงการบ้านหลังแรก
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของ ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง เรียก 3 ธนาคารเข้ามาร่วมหารือ และกำหนดเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของผู้ประกอบการภายในสัปดาห์นี้ โดยส่วนตัวมองว่า ธปท.ไม่ได้ห่วงเรื่องหนี้เสีย แต่อยากให้หลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น การกำหนดเงินทุน ขนาดโครงการ และกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินของผู้ประกอบการ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม รองกรรมการผู้จัดการ ธอส.แนะว่า ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยควรเตรียมความพร้อมล่วงหน้า 4-6 เดือน โดยเฉพาะหลักฐานประกอบการการขอสินเชื่อ เพื่อให้กระบวนการอนุมัติวงเงินสินเชื่อรวดเร็วยิ่งขึ้น