MACO คาดปีนี้รายได้-ผลกำไรทำนิวไฮ เล็งขยายเครือข่ายสื่อ และพื้นที่โฆษณาต่อเนื่อง พร้อมรุกกลุ่ม CLMV โดยเป็นรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิ และรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 721 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 170.66 ล้านบาท หลังมองธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยยังขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ก็คาดจะดีกว่าไตรมาส 1/58 และไตรมาส 4/58 หลังจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยมีการเซ็นสัญญาที่เป็นระยะยาวมากกว่าปีที่แล้ว ประกอบกับธุรกิจใหม่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทวางงบลงทุนราว 500 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณา และพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้น 20,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) จากปัจจุบันมีพื้นที่ราว 90,000 ตร.ม. แบ่งเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว รวมถึงจังหวัดที่เชื่อมต่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ประมาณ 18,000 ตร.ม. และสื่อโฆษณา Street Furniture ในกรุงเทพฯ อีกประมาณ 2,000 ตร.ม. ซึ่งรวมถึงในทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (บางจาก-แบริ่ง) และสายสีลม (วงเวียนใหญ่) อีกทั้งยังมีการจับมือกับพันธมิตรด้านสื่ออื่นๆ เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าของ MACO อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อร่วมกันทำตลาดขยายธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในกลุ่มประเทศ CLMV คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนในปีนี้อย่างน้อย 2 ประเทศ จาก 4 ประเทศดังกล่าว หลังจากที่ผ่านมา ได้ขยายธุรกิจไปในประเทศมาเลเซียในช่วงปลายปี 58
โดยจับมือกับบริษัท EYE Ball Channel SDN.BHD ผู้ได้รับสัมปทานสื่อป้ายโฆษณาบริเวณทางออกจากสนามบินนานาชาติของประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมกันดำเนินการติดตั้งป้าย Giant Gantry สื่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้ทางออกของสนามบิน KLIA Airport รวมถึงป้าย Unipole หรือสื่อบิลบอร์ดขนาดใหญ่ในรูปแบบแนวตั้ง คาดว่าจะรับรู้รายได้-กำไรเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 2/59 ตามสัดส่วนการถือหุ้น 40%
อีกทั้งบริษัทยังสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการในธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยเพื่อเข้ามาต่อยอดการเติบโตในอนาคต ซึ่งวางเป้าหมายภายใน 2-3 ปีจากนี้ จะมีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.3 เท่า ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก
สำหรับบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ที่จะเข้ามาควบรวม MACO นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี และน่าจะมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง VGI ถือว่ามีมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม หากรวมกันแล้วจะทำให้มีสื่อป้ายโฆษณาที่ครอบคลุมมากขึ้น และมีการเติบโตได้อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ MACO ว่าจะขายหุ้นหรือไม่ ซึ่งต้นเดือน มิ.ย.นี้ก็จะทราบว่า VGI จะถือหุ้นในสัดส่วนเกินครึ่งหรือไม่
โดย VGI จะทำสัญญาซื้อหุ้น จำนวน 12.46% ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท คาดว่าจะนำเรื่องซื้อหุ้น MACO เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น VGI ในวันที่ 30 พ.ค.59 และหลังจากที่ได้รับการอนุมัติก็จะดำเนินการทันที ซึ่งจะทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 37.42% จากปัจจุบันถืออยู่ 24.96%
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิ และรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 721 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 170.66 ล้านบาท หลังมองธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยยังขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ก็คาดจะดีกว่าไตรมาส 1/58 และไตรมาส 4/58 หลังจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยมีการเซ็นสัญญาที่เป็นระยะยาวมากกว่าปีที่แล้ว ประกอบกับธุรกิจใหม่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทวางงบลงทุนราว 500 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณา และพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้น 20,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) จากปัจจุบันมีพื้นที่ราว 90,000 ตร.ม. แบ่งเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว รวมถึงจังหวัดที่เชื่อมต่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ประมาณ 18,000 ตร.ม. และสื่อโฆษณา Street Furniture ในกรุงเทพฯ อีกประมาณ 2,000 ตร.ม. ซึ่งรวมถึงในทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (บางจาก-แบริ่ง) และสายสีลม (วงเวียนใหญ่) อีกทั้งยังมีการจับมือกับพันธมิตรด้านสื่ออื่นๆ เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าของ MACO อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อร่วมกันทำตลาดขยายธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในกลุ่มประเทศ CLMV คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนในปีนี้อย่างน้อย 2 ประเทศ จาก 4 ประเทศดังกล่าว หลังจากที่ผ่านมา ได้ขยายธุรกิจไปในประเทศมาเลเซียในช่วงปลายปี 58
โดยจับมือกับบริษัท EYE Ball Channel SDN.BHD ผู้ได้รับสัมปทานสื่อป้ายโฆษณาบริเวณทางออกจากสนามบินนานาชาติของประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมกันดำเนินการติดตั้งป้าย Giant Gantry สื่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้ทางออกของสนามบิน KLIA Airport รวมถึงป้าย Unipole หรือสื่อบิลบอร์ดขนาดใหญ่ในรูปแบบแนวตั้ง คาดว่าจะรับรู้รายได้-กำไรเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 2/59 ตามสัดส่วนการถือหุ้น 40%
อีกทั้งบริษัทยังสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการในธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยเพื่อเข้ามาต่อยอดการเติบโตในอนาคต ซึ่งวางเป้าหมายภายใน 2-3 ปีจากนี้ จะมีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.3 เท่า ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก
สำหรับบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ที่จะเข้ามาควบรวม MACO นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี และน่าจะมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง VGI ถือว่ามีมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม หากรวมกันแล้วจะทำให้มีสื่อป้ายโฆษณาที่ครอบคลุมมากขึ้น และมีการเติบโตได้อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ MACO ว่าจะขายหุ้นหรือไม่ ซึ่งต้นเดือน มิ.ย.นี้ก็จะทราบว่า VGI จะถือหุ้นในสัดส่วนเกินครึ่งหรือไม่
โดย VGI จะทำสัญญาซื้อหุ้น จำนวน 12.46% ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท คาดว่าจะนำเรื่องซื้อหุ้น MACO เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น VGI ในวันที่ 30 พ.ค.59 และหลังจากที่ได้รับการอนุมัติก็จะดำเนินการทันที ซึ่งจะทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 37.42% จากปัจจุบันถืออยู่ 24.96%