เธียรสุรัตน์ เดินหน้าบุกตลาดภูธรตามแผน ไตรมาส 1/59 เปิดใหม่ 2 สาขาในจังหวัดบุรีรัมย์-มุกดาหาร พร้อมกับย้ายที่ทำการ และขยายสาขาอีก 2 แห่ง ที่จังหวัดพิษณุโลก และที่หาดใหญ่ ตั้งเป้าปีนี้เปิดเพิ่ม 5-7 แห่ง หวังผลักดันยอดขายกระฉูด บอร์ดฯ เตรียมเพิ่มไลน์สินค้า “เครื่องซักผ้า-เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน” พร้อมขยายตลาดไปยังลาว-เวียดนาม รองรับเปิดเสรีเออีซี คาดไตรมาส 2/59 ได้ข้อสรุป พร้อมไฟเขียวออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท รองรับแผนขยายธุรกิจ
นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) (TSR) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,617.28 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนขยายไลน์สินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าเพื่อนำเครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ มาจำหน่ายเพิ่มเติม โดยได้เริ่มดำเนินการบางส่วนแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนั้น ในปีนี้มีแผนเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่ม 5-7 แห่ง จากสิ้นปี 2558 มีสาขารวม 14 สาขา และมีศูนย์บริการ 6 แห่ง โดยล่าสุด ในช่วงไตรมาส 1/59 ได้ย้ายที่ทำการ และขยายสาขาพิษณุโลก พร้อมทั้งได้เปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่ม 2 แห่ง ประกอบด้วย สาขาบุรีรัมย์ และมุกดาหาร และในวันที่ 23 มีนาคมนี้ จะดำเนินการย้ายที่ทำการศูนย์บริการสงขลา พร้อมปรับปรุงเป็นสาขาหาดใหญ่ ส่วนสาขาอื่นๆ ที่เหลืออยู่ระหว่างการศึกษาตลาดเพื่อรองรับการขยายงาน และขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา 3 แนวทาง คือ การร่วมลงทุน (Joint Venture) ตั้งตัวแทนจำหน่าย และเปิดสาขาเอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของธุรกิจในลาว และเวียดนาม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/59 นี้
“มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ และกำไรในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากแผนขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด พร้อมเพิ่มทีมขาย การเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales) การเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยเรามีฐานลูกค้าเดิมประมาณ 4 แสนรายในระบบ และเตรียมขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ”
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2558 มีรายได้รวม 1,617.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 492.02 ล้านบาท หรือ 43.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,125.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 145.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.23 ล้านบาท หรือ 55.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 93.72 ล้านบาท ทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2558 เป็นหุ้น และเงินสด (ในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล) และเงินสดอีก 0.02 บาท หรือคิดรวมเป็นหุ้นละ 0.12 บาท (เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายเป็นเงินสดไปเมื่อเดือนกันยายน 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินปันผลรวมหุ้นละ 0.22 บาท) โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 9 พ.ค.2559 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 10 พ.ค.2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 พ.ค.2559 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พ.ค.2559
ขณะเดียวกัน ยังอนุมัติการออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปี เพื่อใช้ดำเนินธุรกิจ หรือใช้ลงทุน หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว และการออกหุ้นกู้ยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22 เม.ย.2559