“ซีอีโอ” แบงก์กสิกรฯ ชี้โอกาสที่จีดีพีของไทยปีนี้จะเติบโตได้ 3.5% เป็นไปได้ยาก หลังไตรมาสแรก 59 ยังซบเซา ระบุการปรับลดดอกเบี้ยไม่ช่วยกระตุ้น เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ซึ่งเหมือนกับปัญหาที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยต้นปี 2559 ยังฟื้นตัวได้น้อย ซึ่งหากในช่วงที่เหลือของปีเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว หรือโตต่ำ โอกาสที่จีดีพีปีนี้จะโตได้ร้อยละ 3.5 คงจะเป็นไปได้ยาก แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะใช้ทั้งมาตรการการเงินการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกับทุกประเทศทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเหมือนกับโรคที่ดื้อยา
ดังนั้น จึงมีแรงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าการใช้ดอกเบี้ยต่ำก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่มีคนกู้ ภาคอุตสาหกรรมไม่มีการเพิ่มกำลังการผลิต แม้จะลดดอกเบี้ยก็แก้ไม่ได้ เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้
“สำหรับธนาคารพาณิชย์ไม่มีข้อจำกัดในการปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องดูความมั่นคงของกระแสเงินสดของธุรกิจด้วย เพราะหากที่มาของกระแสเงินสดไม่ชัดเจนก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงของธนาคารในอนาคต”
ด้านภาวะการส่งออกของประเทศในปีนี้ก็ยังติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อถดถอย และยังมีปัจจัยลบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ปัญหาภัยแล้ง
ขณะที่การลงทุนโครงการลงทุนภาครัฐซึ่งเป็นตัวหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็ยังติดขัดปัญหาสิ่งแวดล้อม การแบ่งผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ทำให้โครงการล่าช้า แนวทางแก้ปัญหาที่ทำได้ คือ รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจชี้ขาดในโครงการต่างๆ ที่ยังค้างอยู่เพื่อให้สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้
ส่วนเรื่องที่ยังไม่มีการเลือกตั้งในประเทศไทยนั้น มองว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากประชาธิปไตยของแต่ละประเทศมีรูปแบบแตกต่างกัน สำหรับประเทศไทยการที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวางก็ถือเป็นประชาธิปไตยรูปแบบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญ คือ สังคมต้องไม่ทะเลาะกัน และต้องมีผู้ตัดสินใจชี้ขาด
