บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง เดินสายโรดโชว์ฮ่องกง อวดผลงานให้นักลงทุนสถาบัน และกองทุนชั้นนำได้เห็นถึงศักยภาพการเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ นาโนไฟแนนซ์ ผู้บริหารมั่นใจอนาคต 2 ปีข้างหน้าสินเชื่อโตไม่ต่ำกว่าปีละ 50%
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเดินทางไปให้ข้อมูลพื้นฐานธุรกิจแก่นักลงทุนสถาบัน และบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำกว่า 20 กองทุน ที่ฮ่องกง ในระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม 2559 ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากผลงานในช่วงที่ผ่านมาหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาอย่างโดดเด่น และดีกว่าที่วางเป้าหมายไว้ในช่วงก่อนหน้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ หลังจากที่เดินหน้าขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับรากหญ้าซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท
“ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการเดินสายโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเอเชีย หรือในยุโรป เพื่ออัปเดตข้อมูลการทำธุรกิจ และฐานะทางการเงิน ส่งผลทำให้นักลงทุนสถาบันเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น” นายชูชาติ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา ยอดปล่อยสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 62% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตกว่า 70% ขณะที่มีกำไรสุทธิกว่า 825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.62% เทียบปีก่อน
“ในปีที่ผ่านมาเราสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้ทะลุเกินกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ คือ จาก 50% เป็น 70% โดยพอร์ตสินเชื่อดังกล่าวเกิดจากการปล่อยสินเชื่อผ่านสาขาอย่างเดียว ไม่มีการซื้อพอร์ตจากธนาคารมารวมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงสุดในสถาบันการเงินที่เป็นนอนแบงก์ด้วยกัน” นายชูชาติ กล่าว
ส่วนแนวโน้มในช่วง 2 ปีข้างหน้า (2559-2560) คาดว่า ยอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ต่อปี ผลักดันให้รายได้ และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากเดิมตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี
ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้มีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 450 สาขา และปี 2560 เปิดเพิ่มอีก 400 สาขา รวมเป็น 1,750 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าในต่างจังหวัดที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบได้มากยิ่งขึ้น