xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” หนุนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำอัญมณี และเครื่องประดับของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“คลัง” ศึกษาแนวทางเปิดเสรีการค้าทองคำ อัญมณี และเครื่องประดับ โดยลดภาษีเหลือ 0% พร้อมผลักดันเป็นศูนย์กลางของโลก ด้านสมาคมผู้ค้าทองขานรับ มั่นใจดันซื้อขายทองเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวเร็วๆ นี้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายในงานสัมมนา “นโยบายของสรรพกรต่อภาษีร้านทอง” ที่จัดโดยสมาคมค้าทองคำ ร่วมกับสมาคมเพรชพลอยเงินทอง โดยระบุว่า รัฐบาลได้ศึกษาการเปิดเสรีการค้าทองคำ อัญมณี และเครื่องประดับด้วยการลดภาษีเป็น 0% ซึ่งปัจจุบันยังมีการจัดเก็บภาษีเครื่องประดับ และอัญมณีบางประเภทอยู่ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวเร็วๆ นี้ เพราะต้องการให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันกับผู้ค้าทอง และอัญมณีในประเทศอื่นได้

พร้อมกันนี้ ยังเตรียมผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำ และอัญมณีของโลกได้ โดยเห็นได้จากการส่งออกทองคำแท่งของไทยที่ผ่านมา มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท จากมูลค่าการส่งออกอัญมณี และเครื่องประดับ 3.7 แสนล้านบาท คิดเป็นการส่งออกอันดับ 3 ของสินค้าส่งออกทั้งหมด ดังนั้น จึงมองว่าไทยมีศักยภาพที่จะต้องส่งเสริมให้แข่งขันได้สูงขึ้น และในอนาคตจะทำให้ไทยมีรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะเม็ดเงินรายได้จากการจัดแสดงสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับในไทยที่ควรผลักดันให้เป็น Product Champion ต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้ประกอบการไทยขนาดเล็กยังกังวลเกี่ยวกับการเปิดเสรีการค้าทอง และอัญมณี เพราะอาจจะเสียเปรียบในการแข่งขันกับผู้นำเข้า จึงต้องให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งก่อนสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งมองว่าการจัดเก็บภาษีเป็น 0% นั้น แม้จะมีผลต่อเม็ดเงินรายได้ในการจัดเก็บภาษี แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับรายได้ที่จะกลับมา

ด้าน นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า การเปิดเสรีการค้าทองคำ อัญมณี และเครื่องประดับ จะทำให้เกิดการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% หลังจากที่ผ่านมากำลังซื้อลดลงถึง 10% ซึ่งมองว่าผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น รัฐบาลจึงควรผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้ยอมรับว่า ยังผันผวน โดยในช่วงไตรมาส 2-3 มีโอกาสเห็นราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแตะ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากปัจจุบันที่ 1,270 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียงครั้งเดียว ทำให้ทองคำยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอยู่ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศจะยังไม่สูงมาก คาดการณ์อยู่ที่บาทละ 22,500 บาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้บัญชีเดียวนั้น นายจิตติ มองว่า เป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องทำทั้งระบบ ทั้งร้านทองคำ และโรงจำนำที่ต้องเสียภาษีส่วนต่างจากรายได้กรณีผู้จำนำไม่มาไถ่ถอน ทำให้โรงรับจำนำต้องนำทองคำมาขายให้ร้านค้าทอง ซึ่งเกิดความยุ่งยากในการลงบัญชี จึงทำให้การลงบัญชีเดียวเป็นไปได้ยาก ดังนั้น จึงอยากให้มีเวทีแสดงความคิดเห็นกับทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางการดำเนินการเรื่องนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีที่ทำบัญชีเดียวสูงถึง 300,000 ราย จากเอสเอ็มอีทั้งหมด 430,000 ราย เพื่อเข้าระบบภาษีอย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงอยากให้ร้านค้าทองจัดทำบัญชีเดียวตามไปด้วย เพื่อให้ระบบร้านค้าเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเข้าระบบภาษีอย่างมีศักยภาพ เพราะที่ผ่านมา ธุรกิจขนาดเล็กมักประสบปัญหาการขอสินเชื่อไม่ผ่านจากการทำระบบบัญชีไม่ถูกต้อง ซึ่งในอนาคตต่อไป ในกฎหมายอีก 3 ปีข้างหน้าในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินนั้นจะต้องใช้การเคลื่อนไหวของบัญชีธุรกิจในการยื่นขอสินเชื่อ โดยจะระบุชัดเจนว่าขอสินเชื่อได้หรือไม่ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น