xs
xsm
sm
md
lg

โนเบิลฯ ไม่หวั่นเศรษฐกิจผันผวนลุยเปิดคอนโด 4 โครงการ มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติ ธนากิจอำนวย
โนเบิลฯ ไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจผันผวน ลงทุนเปิดคอนโดฯ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 59 ตั้งเป้ายอดขายกว่า 6,800 ล้านบาท ฟุ้งโอน “โนเบิล เพลินจิต” ปีนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท

นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกในปี 2559 มีความผันผวนจากปัจจัยลบหลายๆ ประการ แต่ยังเชื่อว่าภาคธุรกิจยังมีความแข็งแกร่งทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ อีกทั้งบริษัทยังเชื่อมั่นในศักยภาพการพัฒนาโครงการ เชื่อมั่นถึงศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ รวมถึงโปรดักต์สินค้า นอกจากนี้ ตลาดลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเทียบกับราคาอสังหาริมทรัพย์

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้วางแผนลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรก 2 โครงการ และครึ่งปีหลังอีก 2 โครงการ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,800-7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 61% จากปี 58 ที่มียอดขาย 2,600 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 20,000 ล้านบาท โดยในปีนี้จะรับรู้จากโครงการโนเบิล เพลินจิต กว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมตั้งงบซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาอีกราว 2,000 ล้านบาท

“แม้เศรษฐกิจในปีนี้จะมีความผันผวนจากปัจจัยลบหลายอย่าง แต่เราเชื่อมั่นว่าในความผันผวนกลับมีความนิ่ง ความนิ่งในที่นี้คือ ภาคธุรกิจนิ่งมีความมั่นคง ภาวะการเมืองนิ่ง โนเบิลก็มีความนิ่งในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ เรายังมั่นใจในศักยภาพของเรา มั่นใจทำเล โปรดักต์ ทำให้กล้าที่จะลงทุนมากในปีนี้ ต่างจากปีที่แล้วที่บริษัทไม่กล้าลงทุนเพราะภาพรวมของตลาด และเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น ทำให้ยอดขาย และรายได้น้อย” นายกิตติ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 มียอดขาย 2,600 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ จำนวน 467.66 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงมากกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของปี 2557 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ จำนวน 163.25 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง โดยมีรายได้จากการขายและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 286.75 ล้านบาท ลดลง 1,917.85 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องมาจากโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

บริษัทมีรายได้จากการให้เช่า และให้บริการสำหรับในปี 58 มีจำนวน 85.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 14 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 58 มีอัตรา 44.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีอัตรา 41.3% เนื่องจากการขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทฯ ได้ปรับราคาขายขึ้นเพื่อให้สอดคล้องต่อราคาตลาดในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทมี จำนวน 802.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 4.65 ล้านบาท
Noble BE19
ล่าสุด โนเบิลได้เปิดตัวโครงการใหม่ “Noble BE19” เป็นอาคารที่พักอาศัยประกอบด้วย Tower A สูง 48 ชั้น 1 อาคาร และอาคาร Tower B สูง 27 ชั้น 1 อาคาร รวมจำนวน 586 ยูนิต ขนาดพื้นที่โครงการ 3-2-95 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 5,900 ล้านบาท โดยมีห้องพักหลากขนาดหลายสไตล์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร ไปจนถึง 50 ตารางเมตร ส่วนยูนิตประเภท 2 ห้องนอน เริ่มต้นที่ขนาด 51 ตารางเมตร ไปจนถึง 73 ตารางเมตร รวมถึงเพนต์เฮาส์ แบบ 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ขนาด 86-146 ตารางเมตร ซึ่งความพิเศษของห้องพักทุกยูนิตถูกออกแบบให้โปร่งโล่งสบายด้วย Floor to ceiling สูงถึง 3 เมตร พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมแผนเจาะตลาดกลุ่มนักลงทุนระดับบนในต่างประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน AEC ที่มีอัตราการเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพในสถานพยาบาลเอกชนระดับพรีเมียมในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก รวมถึงการออกโรดโชว์ และการทำกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อจับกลุ่มนักลงทุนที่มีรายได้สูง และกำลังมองหาแหล่งลงทุนใหม่จากสภาพเศรษฐกิจโลกผันผวน ซึ่งเรามองว่าตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ นั้นยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดอสังหาฯ ในฮ่องกง สิงคโปร์ จีน และไต้หวัน ด้วยเม็ดเงินที่น้อยกว่าเพราะราคา Property ต่อตารางเมตรในกรุงเทพฯ ยังคงมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับในต่างประเทศประมาณ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ในขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่าเราสูงกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น