เอพี มั่นใจภาพรวมตลาดยังขยายตัวต่อเนื่องจากอานิสงส์แผนการพัฒนารถไฟฟ้าสายใหม่ เตรียมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 15 โครงการ แนวสูง 5 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 31,000 ล้านบาท หลังปีที่ผ่านมา กวาดยอดขายรวมได้กว่า 28,184 ล้านบาท หรือโตขึ้นมากถึง 24% ตั้งเป้ารับรู้รายได้อยู่ที่ 23,700 ล้านบาท มั่นใจถึงเป้าที่ตั้งไว้ด้วยการมุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ตลอดจนแผนการโอนฯ คอนโดใหม่ที่มากถึง 11 โครงการ เน้นย้ำพัฒนาคุณภาพคน เพื่อส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพผ่านเอพี อะคาเดมีอย่างต่อเนื่อง
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในปีนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยอานิสงส์จากแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวตามไปด้วย อีกทั้งนโยบายต่างๆ จากทางภาครัฐที่ช่วยเร่งสร้างความมั่นใจผู้บริโภค (consumer confidence) ให้เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีสัญญาณการปรับตัวไปในทางที่ดี ดังนั้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ก็น่าจะมีสัญญาณที่ดีไปตามภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมาย ยอดขาย (Presales) ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายที่มาจากสินค้าแนวราบมูลค่า 14,500 ล้านบาท และแนวสูงมูลค่า 16,500 ล้านบาท ผ่านการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 32,715 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่ารวม 8,370 ล้านบาท 2) ทาวน์เฮาส์ 7 โครงการ มูลค่ารวม 6,105 ล้านบาท 3) คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 18,240 ล้านบาท
ส่วน เป้ารับรู้รายได้ (Revenue) บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ 23,700 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้มาจากสินค้าแนวราบมูลค่า 13,800 ล้านบาท และจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 9,900 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 ของปี 2559 จะเป็นช่วงที่บริษัทฯ จะรับรู้รายได้เป็นจำนวนมากจาก 8 คอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบในช่วงนั้น ได้แก่ RHYTHM สุขุมวิท 42, RHYTHM อโศก, RHYTHM สุขุมวิท 36-38, Aspire สาทร-ท่าพระ, Aspire งามวงศ์วาน, Aspire วุฒากาศ, Aspire สาทร-ตากสิน 3 และ Galerie 39 ซึ่งไม่นับรวมคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ ที่ก่อสร้างเสร็จ และทยอยรับรู้รายได้ไปก่อนหน้า ณ ปัจจุบัน (1 มกราคม-22 กุมภาพันธ์) บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่า 11,583 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา (2558) บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้มากถึง 28,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนหน้าที่มียอดขายมูลค่า 22,679 ล้านบาท โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งสินค้าแนวราบ 13,225 ล้านบาท และแนวสูง 14,959 ล้านบาท ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด ด้วยจุดขายทั้งในเรื่องของศักยภาพทำเลที่เชื่อมต่อทุกการเดินทาง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน (Space Connect) การออกแบบตัวสินค้าที่คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยที่เกิดประโยชน์สูงสุด (Space Maximize) และการจัดวางผังโครงการที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย (Space Privacy) ในทุกตารางนิ้ว ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 22,079 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 2,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 0.3% สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (Net Debt to Equity) ลดลงเหลือเพียง 0.81 จากปีก่อนหน้า 0.90
ภาพรวมการร่วมทุนกับทางกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท หนึ่งในผู้นำการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในประเทศญี่ปุ่น ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา (2014-2015) ได้ดำเนินพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่ารวม 24,050 ล้านบาท สร้างยอดขายรวมได้มากถึง 80% และ 3 ใน 7 โครงการร่วมทุน ได้แก่ RHYTHM สุขุมวิท 36-38, Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง และ Aspire สาทร-ท่าพระ มีแผนก่อสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบในปีนี้ และในช่วงไตรมาส 3 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการร่วมทุนโครงการที่ 8 ในทำเลย่านเอกมัย มูลค่าโครงการประมาณ 2,600 ล้านบาท
“เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาทีมงาน และกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่องผ่าน เอพี อะคาเดมี (AP Academy) สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสร้างแนวคิด และมาตรฐานของเอพีในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าของเรา ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย” นายอนุพงษ์ กล่าว
(ข่าวประชาสัมพันธ์)