ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ปิดทำการที่ 1,303.96 จุด ลดลง 3.61 จุด หรือ -0.28% โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,303.99 จุด และต่ำสุดที่ 1,294.60 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 28,393.62 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเหมือนเมื่อวาน นักวิเคราะห์มองช่วงนี้ยังผันผวน รวมถึงกลุ่มแบงก์กดตลาด
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในช่วงนี้ยังผันผวน โดยกระแสเงินทุนต่างชาติที่เข้าตลาดหุ้นไทยช่วงนี้เป็นเพียงระยะสั้น โดยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 10-11 ก.พ.นี้ว่าจะมีปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ขณะที่ราคาน้ำมันยังมีโอกาสปรับตัวลงอีกกระทบมูลค่าหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,500 จุด หรือระดับราคาต่อกำไรสุทธิ พีอี เรโช ที่ 16 เท่า หากการลงทุนภาครัฐมีความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนความมั่นใจของเอกชน และผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจโตร้อยละ 3 แต่หากการลงทุนภาครัฐไม่เป็นไปตามคาดหมาย ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับลงมาทดสอบแนวรับ 1,200 จุด กำไรบริษัทจดทะเบียนคาดว่าโตร้อยละ 20 โดยให้เลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวที่มีผลประกอบการดี คือ กลุ่มโรงพยาบาล ท่องเที่ยว และก่อสร้าง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,699.77 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,345.52 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,244.40 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,094.23 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,075.76 ล้านบาท ปิดที่ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
