บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ แชมป์มูลค่าการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตสูงสุดในอุตสาหกรรม 6 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553-2558 โดยปี 2558 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 11.23% เทียบกับการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในอุตสาหกรรม จำนวน 31 บริษัท ขณะที่ภาพรวมทั้งตลาดของการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ในปี 2558 ที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนักจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง แต่บริษัทยังคงความแข็งแกร่ง และรักษาความเป็นหนึ่งในด้านการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเสมอมา ส่วนทิศทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตจะยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้มีสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 54.15% และซื้อขายผ่านผู้แนะนำการลงทุน 45.85% ในขณะที่ทั้งตลาดมีสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 37.87% และซื้อขายผ่านผู้แนะนำการลงทุน 62.13%”
นางบุญพร เผยเคล็ดลับของความสำเร็จนี้ว่า เมย์แบงก์ กิมเอ็งเป็นบริษัทแรกๆ ที่บุกเบิกระบบซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต เราลงทุน และให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยเครื่องมือ 7 ชนิด ดังนี้ 1) บริษัทพัฒนาระบบเทรดให้รองรับการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมากกว่า 10 ระบบ 2) เราเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม eZy Trade ที่ลูกค้าสามารถตั้งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไขได้ 3) เราเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม LINE ที่สามารถสื่อสารข้อมูลแบบ Two-way Communication ได้ 4) เราเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม MT5 ที่ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งแบบ Algorithmic Trading ด้วยตัวเองได้
5) การพัฒนาโปรแกรม eFintrade+ ที่รองรับฟังก์ชัน Auto Trade ซึ่งประกอบไปด้วยการตั้งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไข DCA และ Cash Management ที่เปิดตัวในวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา 6) เราเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม Aspen ให้ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านมือถือ 7) การพัฒนาโปรแกรม KEiTrade ที่มีฟังก์ชัน Stock Radars ให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยเครื่องมือ 7 ชนิดนี้ทำให้บริษัทได้รับรางวัลบูทนิทรรศการดีเด่น “ด้านนวัตกรรมของสินค้าและบริการ” ในงาน SET in the City 2015 ที่ผ่านมา
“ทางบริษัทยังคงเร่งพัฒนาบุกเบิกนวัตกรรม และเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกท่าน นักลงทุนท่านใดสนใจเปิดบัญชี หรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ สอบถามได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2658-5050 หรืออีเมล clientservice@maybank-ke.co.th” นางบุญพร กล่าวทิ้งท้าย