MBKET มองทิศทางเทรดหุ้นออนไลน์ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซีอีโอปลื้มผลงานโดดเด่นจนครองแชมป์อันดับ 1 ได้ถึง 6 ปีซ้อน
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ในปี 2558 ไม่ค่อยดีนักจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง แต่บริษัทยังคงความแข็งแกร่ง และรักษาความเป็นหนึ่งในด้านการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเสมอมา
ส่วนทิศทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตจะยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้มีสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 54.15% และซื้อขายผ่านผู้แนะนำการลงทุน 45.85% ในขณะที่ทั้งตลาดมีสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 37.87% และซื้อขายผ่านผู้แนะนำการลงทุน 62.13%
ทั้งนี้ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นบริษัทแรกๆ ที่บุกเบิกระบบซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต โดยลงทุนและให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยเครื่องมือ 7 ชนิด ดังนี้
1.บริษัทพัฒนาระบบเทรดให้รองรับการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมากกว่า 10 ระบบ 2. เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม eZy Trade ที่ลูกค้าสามารถตั้งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไขได้ 3.เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม LINE ที่สามารถสื่อสารข้อมูลแบบ Two-way Communication ได้
4.เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม MT5 ที่ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งแบบ Algorithmic Trading ด้วยตัวเองได้ 5.การพัฒนาโปรแกรม eFintrade+ ที่รองรับฟังก์ชัน Auto Trade ซึ่งประกอบไปด้วย การตั้งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไข DCA และ Cash Management ที่เปิดตัวในวันที่ 1 ก.พ.นี้
6.เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาโปรแกรม Aspen ให้ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านมือถือ 7.การพัฒนาโปรแกรม KEiTrade ที่มีฟังก์ชัน Stock Radars ให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยเครื่องมือ 7 ชนิดนี้ ทำให้บริษัทได้รับรางวัลบูทนิทรรศการดีเด่น “ด้านนวัตกรรมของสินค้าและบริการ” ในงาน SET in the City 2015 ซึ่งทางบริษัทยังคงเร่งพัฒนาบุกเบิกนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้ดียิ่งขี้นเพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกคน