ตลาดฯ ยังมีความกังวลบีโอเจใช้นโยบาย ดบ.ติดลบ อาจเกิดสงครามค่าเงินในอนาคต

หุ้นเช้าผันผวนก่อนปิดบวก 0.64 จุด ทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มไอซีทีเข้ามาพยุง และอาจมีการเก็งกำไรรายตัว ขณะที่ปัจจัยลบหลักตอนนี้น่าจะมาจากนโยบายของบีโอเจที่ใช้อัตรา ดบ.ติดลบ เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้เงินสกุลเยนปรับตัวอ่อนค่าลง จึงมีความกังวลว่าอาจเกิดสงครามค่าเงินในอนาคตได้ เพราะจะส่งผลต่อกำลังซื้อต่อค่าเงินภูมิภาค และการค้าระหว่างประเทศ

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (1 ก.พ.) แกว่งตัวทั้งในแดนบวก และลบตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยปัจจัยหลักมาจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้เงินสกุลเยนปรับตัวอ่อนค่าลง จึงมีความกังวลว่าอาจเกิดสงครามค่าเงินในอนาคตได้ เพราะจะส่งผลต่อกำลังซื้อต่อค่าเงินภูมิภาค และการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศก็มีแรงซื้อเข้ามาจากหุ้น ADVANC ซึ่งมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม ICT ที่อาจได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในการให้บริการ 4G และการเพิ่มทุนเพื่อนำมาลงข่ายค่าใบอนุญาต รวมถึงการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในส่วนที่เหลือ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดการเก็งกำไรรายตัว

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,301.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.05% มูลค่าการซื้อขาย 21,758.00 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดเช้านี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนบวก และลบ

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ พร้อมให้แนวรับที่ 1,290 จุด แนวต้าน 1,305 จุด