ยูเอซี โกลบอล เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ปีนี้อัดงบลงทุน 1 พันล้านบาท ทั้งโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่สุโขทัย การซื้อกิจการโรงไฟฟ้า และลงทุนด้านโรงไฟฟ้าขยะกันทุนสูงถึง 700 ล้านบาท หวังลุยพลังงานเต็มสูบ ตั้งเป้ารายได้ปี 59 ที่ระดับ 1,800 ล้านบาท หรือโตขึ้น 20% มั่นใจกำไรสุทธิโตในทิศทางเดียวกัน เล็งลงทุนพลังงานในพม่า
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น 100 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่สุโขทัย โดยต่อท่อส่งก๊าซฯ จาก บมจ.ปตท.สำรวจ และผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มายังสุโขทัย ทำให้โรงงานสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้เต็มกำลัง คาดก๊าซฯ จะเข้ามาเต็มที่ได้ช่วงไตรมาส 2 ปี 59 และอยู่ระหว่างขั้นตอนการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ขนาด 7 เมกะวัตต์ คาดแล้วเสร็จไตรมาสแรกปีนี้ ด้วยงบลงทุน 200 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทประมาณ 90 ล้านบาทต่อปี และมีอัตรากำไรสุทธิ 30-40%
ขณะที่เงินทุนอีก 700 ล้านบาทนั้นจะใช้ในการลงทุนในด้านโรงไฟฟ้าขยะ ที่ภาคเหนือ ขนาด 2-3 เมกะวัตต์ ขณะนี้รอหลักเกณฑ์จากภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ศึกษาการลงทุนดังกล่าวค่อนข้างมาก และมีความพร้อมที่จะเข้าลงทุน โดยจะดำเนินการผ่านบริษัท พีพีดับบลิวอี จำกัด (PPWE) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC)
สำหรับธุรกิจเทรดดิ้ง UAC ขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมองไปยังประเทศพม่า กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งประเทศแรกที่จะขยายไป คือ พม่า ที่มีการขยายตัวค่อนข้างมาก และบริษัทยังมีพันธมิตรในประเทศดังกล่าวอีกด้วย ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็นระดับ 20-30% ในปี 61 จากปัจจุบันยังคงไม่ถึง 10%
นายกิตติ คาดว่ารายได้ปี 59 ที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เติบโต 20% จากราว 1,500 ล้านบาทในปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเทรดดิ้ง 50% และธุรกิจการผลิตที่แบ่งเป็น ธุรกิจพลังงานทดแทน คาดจะอยู่ประมาณ 30% ส่วนที่เหลือจะเป็นธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ (UAPC)
“คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อนตามรายได้ที่เติบโต และเชื่อว่าอัตรากำไรสุทธิจะพลิกกลับไปอยู่เหนือ 10% เหมือนในอดีต เนื่องจากทุกโครงการที่ลงทุนไปนั้นจะเริ่มมีรายได้เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่สุโขทัย และกำไรพิเศษจากบางจาก ไบโอฟูเอล (BBF)” นายกิตติ กล่าว
“โดยปีนี้ UAC ตั้งเป้าการเติบโตไว้ 20% จากปีก่อน โดยเราจะรับรู้รายได้เต็มที่ของโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เต็ม 100% ของโครงการผลิตผลิตปิโตรเลียม จ.สุโขทัย รวมถึงการร่วมทุนกับบางจากในโครงการไบโอดีเซล (BBF) ที่เราถือหุ้นอยู่ 30% จะมีกำลังการผลิตเกินเท่าตัว อีกทั้งเรายังมีแผนการขยายการลงทุน และขยายธุรกิจเทรดดิ้งไปยังต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งมองว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวม” นายกิตติ กล่าว
นายกิตติ กล่าวถึงการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทกับ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เพื่อดำเนินธุรกิจพลังงานนั้น ซึ่งการลงทุนจะมีทั้งซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศ และลงทุนเองในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้สนใจพม่า เพราะมีวัตถุดิบมีอยู่มาก ส่วนเงินทุนนั้นจะมาจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ และการออกหุ้นกู้ รวมทั้งกำไรสะสมที่มีอยู่เกือบ 300 ล้านบาท
