บมจ.ยูเอซี โกลบอล ส่งซิกไตรมาส 3/57 มีลุ้นซื้อกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เร่งขยายธุรกิจแบบครบวงจร มั่นใจรายได้ปีนี้แตะระดับ 1,200 ล้านบาท ตั้งเป้า 3 ปีสัดส่วนรายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-2,500 ล้านบาท นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการสรุปแผนการซื้อกิจการในประเทศ 2-3 แห่ง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานทดแทนของบริษัทฯ และยังเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงมากขึ้นในอนาคต โดยแผนดังกล่าวคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 3/2557
ส่วนการดำเนินการโครงการการร่วมทุนกับบริษัท Sebigas (S.p.A) ผู้นำด้าน Bio-gas จากประเทศอิตาลีภายใต้ “Sebigas UAC” นั้น บริษัทฯ คาดว่า โรงงานแห่งแรกจะแล้ว ประมาณไตรมาส 4/2557 จากงานทั้งหมดที่ได้รับงานออกแบบก่อสร้างมา 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จครบทุกโครงการในปี 2558
“บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ จากธุรกิจพลังงานทางเลือก ประมาณ 15% ของรายได้รวม ส่วนอีก 85% มาจากธุรกิจเทรดดิ้ง และคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ที่จะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนกับธุรกิจเทรดดิ้ง ก็จะมีสัดส่วนเท่าๆ กัน คือ ที่ระดับ 50% ต่อ 50% และรายได้รวมคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-2,500 ล้านบาท จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,067 ล้านบาท” นายชัชพล กล่าว
สำหรับโครงการก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอยู่ 7 โครงการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการจะเปิดโครงการดังกล่าวให้ครบ 21 แห่ง ภายในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันได้เปิดโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง ที่ลำปาง 2 แห่ง และที่ขอนแก่น 2 แห่ง ส่วนโครงการโซลารูฟท็อป 3 โครงการ บริษัทฯ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้านครหลวง ไปแล้ว 1 โครงการ สำหรับอีก 2 โครงการ คาดว่า จะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวงได้ในเดือนตุลาคมและธันวาคม 2557 และคาดว่าจะทำรายได้ให้กับบริษัทฯประมาณ 8 ล้านบาทต่อปี
ส่วนการดำเนินการโครงการการร่วมทุนกับบริษัท Sebigas (S.p.A) ผู้นำด้าน Bio-gas จากประเทศอิตาลีภายใต้ “Sebigas UAC” นั้น บริษัทฯ คาดว่า โรงงานแห่งแรกจะแล้ว ประมาณไตรมาส 4/2557 จากงานทั้งหมดที่ได้รับงานออกแบบก่อสร้างมา 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จครบทุกโครงการในปี 2558
“บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ จากธุรกิจพลังงานทางเลือก ประมาณ 15% ของรายได้รวม ส่วนอีก 85% มาจากธุรกิจเทรดดิ้ง และคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ที่จะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนกับธุรกิจเทรดดิ้ง ก็จะมีสัดส่วนเท่าๆ กัน คือ ที่ระดับ 50% ต่อ 50% และรายได้รวมคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-2,500 ล้านบาท จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,067 ล้านบาท” นายชัชพล กล่าว
สำหรับโครงการก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอยู่ 7 โครงการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการจะเปิดโครงการดังกล่าวให้ครบ 21 แห่ง ภายในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันได้เปิดโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง ที่ลำปาง 2 แห่ง และที่ขอนแก่น 2 แห่ง ส่วนโครงการโซลารูฟท็อป 3 โครงการ บริษัทฯ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้านครหลวง ไปแล้ว 1 โครงการ สำหรับอีก 2 โครงการ คาดว่า จะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวงได้ในเดือนตุลาคมและธันวาคม 2557 และคาดว่าจะทำรายได้ให้กับบริษัทฯประมาณ 8 ล้านบาทต่อปี
