xs
xsm
sm
md
lg

SCB อัดฉีดงบเดินหน้าดิจิตอลแบงก์ ไม่เร่งโตเน้นคุมความเสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


MGR online ไทยพาณิชย์เผยแผนปี 5 ไม่เร่งขยายธุรกิจ คงอัตราการเติบโตใกล้เคียงระดับเดิม หันเพิ่มระบบรองรับ-บริหารความเสี่ยง และเร่งพัฒนาระบบไอทีรับดิจิตอลแบงก์ เจียดกำไร 1-1.5% ตั้งบริษัทเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ พร้อมวางหน้าตัก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยี

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวถึงกลยุทธ์ และทิศทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารในปี 2559 ว่า ธนาคารได้แบ่งแผนงานออกเป็น 2 ด้านหลักๆ ได้แก่ แผนด้านธุรกิจซึ่งในปีนี้จะเน้นที่การเตรียมความพร้อมที่จะรับกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยจะให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าในทุกๆ กลุ่ม ซึ่งบางส่วนก็อ่อนแอลง รวมถึงการดูแลด้านการบริหารความเสี่ยง และคุณภาพของสินทรัพย์ ซึ่งไม่ใช่ส่วนของสินเชื่อเท่านั้น แต่เป็นในทุกๆ ด้าน

“เรามองว่าความเสี่ยงในปีนี้ยังมีอยู่ และให้น้ำหนักกับความเสี่ยงในต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่ หากเกิดวิกฤตขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และไทย ดังนั้น การเตรียมความพร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่ความเสี่ยงในประเทศก็ยังมองที่การผลักดันให้โครงการลงทุนภาครัฐให้ออกมาให้ได้ ซึ่งหากทำไม่ได้ก็อาจจะแย่กว่าปีที่แล้ว โดยส่วนตัวแล้วประเมินจีดีพีปีนี้โตประมาณ 3-3.5%”

ส่วนแผนงานด้านการขยายธุรกิจนั้น อัตราการขยายตัวทางธุรกิจน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สูงนัก ด้านสินเชื่อจะเน้นการปรับธุรกิจใน 3 ส่วน ได้แก่ เอสเอ็มอี ที่จะเน้นขยายเอสเอ็มอีไซส์เล็กเพิ่มขึ้น รวมทั้งเน้นกลุ่มลูกค้าธนบดีธนกิจ และลูกค้ารายใหญ่ที่จะเน้นมาที่ลูกค้าไซส์กลางมากขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการทำธุรกรรมด้านดิจิตอลแบงก์ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาก โดยธนาคารได้ตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาด้านวัตกรรมดิจิตอลเทคโนโลยี ซึ่งจะใช้เงินทุนจากที่ธนาคารได้กันออกกำไรสุทธิจำนวน 1-1.5% มาตั้งแต่ปีก่อน รวมทั้งยังตั้งเงินลงทุนไว้อีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการพาตัวเองเข้าสู่ระบบเทคโนโลยีในทุกมิติ

นายญญน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การทำธุรกิจธนาคารต่อไปนี้ ธนาคารตระหนักที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจที่จะเติบโตชะลอลงอย่างน้อยอีก 3-4 ปี จึงต้องปรับให้การขยายธุรกิจของธนาคารให้สอดคล้องกัน

รวมถึงการพร้อมรับการเปลี่ยนไปของรูปแบบการดำเนินธุรกรรมของลูกค้าที่จะเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนนี้ ธนาคารก็มีความพร้อมจาก Cost to income ratio ของธนาคารที่อยู่ในระดับ 36% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าธนาคารอื่น จึงมีช่องที่ลงทุนในด้านนี้เพิ่มอย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น