ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 จุด ปิดที่ 1,266.01 จุด มูลค่าซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท สอดคล้องต่อตลาดหุ้นเอเชียที่พร้อมใจบวกถ้วนหน้า ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนเป็นไปตามคาดการณ์ และคาดหวังรัฐบาลจีนเตรียมส่งมาตรการชุดใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (19 ม.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขายในภาคเช้า และดีดตัวแรงในช่วงบ่าย ซึ่งสอดคล้องต่อตลาดหุ้นภูมิภาคที่ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่เป็นไปตามที่คาดการณ์ รวมทั้งนักลงทุนยังคาดหวังรัฐบาลจีนจะออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งสื่อสาร พลังงาน และธนาคารพาณิชย์
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดที่ 1,269.98 จุด ต่ำสุดที่ 1,248.39 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,266.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด หรือคิดเป็น 1.68% มูลค่าการซื้อขายรวม 45,449.95 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ราคาปิด 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือ 5.84% มูลค่าการซื้อขาย 3,983.76 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท หรือ 6.57% มูลค่าการซื้อขาย 2,569.09 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ราคาปิด 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท หรือ 4.92% มูลค่าการซื้อขาย 2,295.80 ล้านบาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นกว่า 20 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยตลาดหุ้นไทยบวกได้ดีกว่าตลาดเพื่อนบ้าน แต่รองจากตลาดหุ้นจีน ที่บวกถึง 3% แม้แต่ตลาดในยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ต่างก็อยู่ในแดนบวกด้วย เช่นเดียวกับดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ส ที่บวกราว 1.4%
โดยปัจจัยบวกที่เข้ามาสนับสนุนตลาดหุ้นโดยรวมคือ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ที่ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ไม่มีอะไรที่เป็น Negative ตลาดหุ้นจึงผ่อนคลายความกังวลไปบ้าง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดฟิวเจอร์สขณะนี้รีบาวนด์ขึ้นได้ดี ทำให้ไปหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มสื่อสารด้วย
“แรงซื้อที่มีเข้ามาในตลาดหุ้นน่าจะเป็นแรงซื้อจากนักลงทุนรายสถาบันที่เข้ามาเก็บหุ้นในช่วงที่ราคาหุ้นยังต่ำอยู่ ทำให้เห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มหลักๆ ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,275 จุด”