เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยบทวิเคราะห์การลงทุนชี้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส อาจมีกำไรไตรมาส 4 แตะ 9,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 15.3% เทียบกับช่วงเดียวกันกับของปี 2557 และทั้งปีกำไรอาจพุ่งสูงถึง 38,000 ล้านบาท เร่งขยายฐาน 3G/4G แบบปูพรม
นายศุภชัย วัฒนวิเทศกุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ว่า ประมาณการกำไรปกติในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 จะอยู่ที่ประมาณ 9,900 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น +15.3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2557 และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +8.9% เทียบกับระหว่างปีก่อนหน้า ส่งผลให้กำไรทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 38,000 ล้านบาทสูงกว่าคาดเล็กน้อย โดยส่วนหนึ่งของกำไรในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 นั้นที่เติบโตดีขึ้นจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ต้นทุนที่ลดลงจากค่าเสื่อม 2G ที่หมดไป และต้นทุนค่าใช้จ่ายในการกำกับดูแลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้จากงานบริการที่มีแนวโน้มทรงตัวเทียบกันระหว่างไตรมาสก่อนหน้าเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง โดย MBKET คงประมาณการ และคำแนะนำซื้อ ADVANC ที่ราคาเป้าหมาย 220 บาทต่อหุ้น (DCF) เราคาด ADVANC จะจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2558 ที่ประมาณ 6 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.6%
กำไรปกติโตหนุนจากต้นทุนที่ลดลงโดยรายได้จากงานบริการ (-0.4% เทียบรัหว่างไตรมาส และ -0.7% เทียบกันระหว่างปี) อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2558 ที่เติบโต 3.2% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากการเสียส่วนแบ่งการตลาดให้ TRUE
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขายเครื่องมือถือยังโตได้ดี คาดอยู่ที่ 8,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5% เทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ในด้านต้นทุน กลยุทธ์การอุดหนุนค่าเครื่องเพื่อลดสัดส่วนเครื่อง 2G ในฐานลูกค้ายังเดินหน้าต่อ และจะทำให้กำไรขั้นต้นของการขายเครื่องติดลบแต่ลดลงเทียบระหว่างไตรมาส คาด -7% เทียบกับ -11% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า +4.6% เทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ค่าเสื่อมราคาที่ลดลง -23% เทียบกันระหว่างปีต่อปี มาจากค่าเสื่อม 2G ที่หมดไป และค่าใช้จ่ายในการกำกับดูแลที่ลดลงต่อเนื่องกว่า -23% เทียบกับระหว่างปี ซึ่งจะทำให้ช่วยสนับสนุนกำไรเติบโตเทียบกันระหว่างไตรมาส โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ที่มาจากค่าบริการด้านต่างๆ และค่าใช้จ่ายในการกำกับดูแลจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 10%
ขณะนี้บริษัทเตรียมเงินทุนที่เคลื่อนย้ายลูกค้า 12 ล้านเลขหมาย และขยายพื้นที่โครงข่าย 3G/4G แบบปูพรม โดยทางผู้ให้บริการได้ส่ง sms ไปแจ้งลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมโปรโมชันเป็นรายตำบล เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยแม้ลูกค้าที่ค้างอยู่จะเป็นรายได้ประมาณ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 10% ของรายได้รวม แต่ลูกค้าองค์กรที่มียอดการใช้ต่อเดือนมากกลับมีจำนวนไม่มาก โดย ADVANC คาดว่าหากสามารถแจกเครื่องลูกค้าส่วนสำคัญได้ 1 ใน 4 น่าจะสามารถรักษารายได้ได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ในด้านโครงข่าย ADVANC จะเร่งการกระจายไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายขนาดเล็กเพื่ออุดช่องโหว่จากการพลาดประมูลคลื่น 900MHz โดยผู้บริหารคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 4-6 เดือน และการเตรียมเปิดให้บริการ 4G อย่างเป็นทางการในครึ่งหลังของเดือนมกราคม
ทั้งนี้ คาดว่า ADVANC ยังพอมีเวลาที่จะแก้ปัญหานี้จากกรณีที่คู่แข่งยังไม่มีโครงข่าย 4G ความถี่ 900MHz มาให้บริการ และลูกค้าที่ค้างอยู่เป็นลูกค้าที่รอโปรโมชันเฉพาะเพื่อมาเข้าถึงซึ่งคู่แข่งในปัจจุบันมีข้อจำกัดในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเหล่านี้เพราะไม่มีฐานข้อมูลลูกค้า และลูกค้าจำเป็นต้องได้รับการดูแล ยากที่ กสทช. จะยอมปล่อยให้ SIM ดับจำนวนมาก
ขณะที่ในส่วนของการเจรจางานจาก TOT อาจยังต้องรอความชัดเจนต่อไปซึ่งบริษัทยังมั่นใจว่าจะสามารถปิดการเจรจาคู่ค้ากับ TOT ลงได้อย่างเป็นทางการ แต่กระนั้นบริษัทก็ยังไม่ได้ให้ timeline ที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น โดยปัจจุบันหลังจากที่บอร์ดบริหารของ TOT ได้อนุมัติเลือก ADVANC เป็นพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว ขบวนการขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการจัดทำเอกสารให้เสร็จสมบูรณ์