“สามารถ คอร์ปอเรชั่น” ควักทุนเกือบ 3 พันล้านบาทซื้อหุ้น “สามารถ ไอ-โมบาย ” คืนจากผู้ถือหุ้นเดิมอย่าง AXIATA GROUP จำนวน 1,053 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท หรือประมาณ 2,843 ล้านบาท ส่งผลให้วานนี้ราคาหุ้นสวิงในกรอบแคบทั้งวันและค่อยๆ ขยับขึ้น กระทั่งปิดตลาดราคาหุ้น SAMART ปิดที่ 21 บาท บวกเพิ่ม 50 สตางค์ และ SIM ปิดที่ 3.16 บาท บวกเพิ่ม 12 สตางค์ ขณะผู้บริหารไม่เปิดเผยรอแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เช้านี้ (3 ก.ค.57)
ราคาหุ้น บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART วิ่งบวกรับข่าวการเข้าซื้อหุ้น บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด(มหาชน) หรือ SIM จากผู้ถือหุ้น AXIATA GROUP 1,053 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท โดยแรงซื้อเข้ามาพอประมาณ ไล่ราคาขยับต่อเนื่องกระทั่งปิดตลาดหุ้นอยู่ที่ 21 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ หรือ 2.44 ล้านบาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 198.22 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น SIM ก็ขยับตาม ปิดที่ 3.16 บาท เพิ่มขึ้น 12 สตางค์ หรือ 3.95% มูลค่าซื้อขาย 140.33 ล้านบาท
นักวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ MBKET กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทั้งสองตัว เนื่องจากขณะนี้ SIM กำลังอยู่ในช่วงของการเจรจาเพื่อซื้อหุ้นคืนจาก AXIATA GROUP 1,053 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 23.96% ในราคา 2.70 บาท/หุ้น หรือประมาณ 2,843 ล้านบาท โดยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ AXIATA ถือครองอยู่ใน SIM นั้น AXIATA จะขายคืนให้กับ SAMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SIM ซึ่งจะทำให้ SAMART มีสัดส่วนหุ้นเพิ่มเป็น 81.32% และจะทำให้ SAMART รับรู้กำไรตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน คาดว่าราคาหุ้น SIM จะกลับขึ้นไปยืนบริเวณ 3.30-3.40 บาท ซึ่งเป็นราคาช่วงก่อนหน้าที่จะลงมา เพราะประเด็นการขายหุ้นคืนของ Axiata และงบไตรมาสที่ 2/2557 จะทำระดับราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นที่ดีกว่าคาด อีกทั้งกระแสเทคโนโลยีการสื่อสารระบบ 4G ที่ทยอยเริ่มออกใช้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่ายต่างๆในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม SIM ซึ่งก่อนที่ AXIATA จะขายหุ้นที่ถือครองอยู่ออกไปนั้น มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกคือ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART เข้าถือหุ้น 2,520,539,400 หรือคิดเป็น 57.36% ขณะที่ AXIATA GROUP BERHAD ถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ถือหุ้น 1,053,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 23.96% และ บมจ.สามารถเทเลคอม หรือ SAMTEL ถือหุ้นสัดส่วน 67,793,200 หุ้น หรือคิดเป็น 1.54% ทั้งนี้ AXIATA GROUP ร่วมลงทุนกับกลุ่ม SAMART เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีตั้งแต่ปี 2540 ช่วงปลายปี 2553 AXIATA GROUP ขายหุ้น SAMART ที่ถือ 18.6% ให้กลุ่มวิไลลักษณ์ ซึ่งเป็นตระกูลผู้ก่อตั้ง SAMART
ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดแถลงข่าวแต่อย่างใด ขณะผู้บริหารให้เหตุผลว่าจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในเช้าวันนี้ (3 ก.ค.57 )
ราคาหุ้น บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART วิ่งบวกรับข่าวการเข้าซื้อหุ้น บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด(มหาชน) หรือ SIM จากผู้ถือหุ้น AXIATA GROUP 1,053 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท โดยแรงซื้อเข้ามาพอประมาณ ไล่ราคาขยับต่อเนื่องกระทั่งปิดตลาดหุ้นอยู่ที่ 21 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ หรือ 2.44 ล้านบาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 198.22 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น SIM ก็ขยับตาม ปิดที่ 3.16 บาท เพิ่มขึ้น 12 สตางค์ หรือ 3.95% มูลค่าซื้อขาย 140.33 ล้านบาท
นักวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ MBKET กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทั้งสองตัว เนื่องจากขณะนี้ SIM กำลังอยู่ในช่วงของการเจรจาเพื่อซื้อหุ้นคืนจาก AXIATA GROUP 1,053 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 23.96% ในราคา 2.70 บาท/หุ้น หรือประมาณ 2,843 ล้านบาท โดยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ AXIATA ถือครองอยู่ใน SIM นั้น AXIATA จะขายคืนให้กับ SAMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SIM ซึ่งจะทำให้ SAMART มีสัดส่วนหุ้นเพิ่มเป็น 81.32% และจะทำให้ SAMART รับรู้กำไรตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน คาดว่าราคาหุ้น SIM จะกลับขึ้นไปยืนบริเวณ 3.30-3.40 บาท ซึ่งเป็นราคาช่วงก่อนหน้าที่จะลงมา เพราะประเด็นการขายหุ้นคืนของ Axiata และงบไตรมาสที่ 2/2557 จะทำระดับราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นที่ดีกว่าคาด อีกทั้งกระแสเทคโนโลยีการสื่อสารระบบ 4G ที่ทยอยเริ่มออกใช้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่ายต่างๆในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม SIM ซึ่งก่อนที่ AXIATA จะขายหุ้นที่ถือครองอยู่ออกไปนั้น มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 อันดับแรกคือ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART เข้าถือหุ้น 2,520,539,400 หรือคิดเป็น 57.36% ขณะที่ AXIATA GROUP BERHAD ถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ถือหุ้น 1,053,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 23.96% และ บมจ.สามารถเทเลคอม หรือ SAMTEL ถือหุ้นสัดส่วน 67,793,200 หุ้น หรือคิดเป็น 1.54% ทั้งนี้ AXIATA GROUP ร่วมลงทุนกับกลุ่ม SAMART เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีตั้งแต่ปี 2540 ช่วงปลายปี 2553 AXIATA GROUP ขายหุ้น SAMART ที่ถือ 18.6% ให้กลุ่มวิไลลักษณ์ ซึ่งเป็นตระกูลผู้ก่อตั้ง SAMART
ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดแถลงข่าวแต่อย่างใด ขณะผู้บริหารให้เหตุผลว่าจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในเช้าวันนี้ (3 ก.ค.57 )