xs
xsm
sm
md
lg

“BMN” คาดเข้าเทรดทันปี 2560 กุมอำนาจสื่อและการบริหารพื้นที่ขายใต้ดิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เมโทร เน็ตเวิร์ค จำกัดหรือ  BMN
BMN คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปี 2560 เผยรายได้จะเติบโตโดดเด่น หลัง บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ ได้บริหารรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% เล็งเปิดแหล่งค้าปลีกใต้ดินเพิ่ม 2 แห่งภายในไตรมาส 3 ปีนี้

นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เมโทร เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ BMN บริษัทฯ ผู้ให้บริการให้เช่าพื้นที่โฆษณาในสถานีรถไฟฟ้า การบริหารพื้นที่เช่าร้านค้าปลีก และการให้เช่าพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ กล่าวว่า บริษัทฯ ประมาณการว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยได้ภายในปี 2560 นี้ โดยบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลสิทธิ์สัมปทานการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคตในทุกเส้นทาง ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และสายสีชมพู ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีรถไฟฟ้าโดยจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“คาดว่าภายในปี 2560 จะสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยได้ ซึ่งในขณะนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการปรับกลยุทธการบริหารธุรกิจ และเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลสัมปทานการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู และส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน เพื่อให้รายได้ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคตมีความสม่ำเสมอมากขึ้น”


อย่างไรก็ตาม หากในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ถ้า บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM เข้าไปรับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู นอกเหนือจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ BEM ได้สิทธิในการเดินรถไปแล้ว และเตรียมที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ BMN ในการเข้าบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย

ขณะที่ในส่วนรายได้ของบริษัทฯ ซึ่งตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 10% หรือประมาณ 450-470 ล้านบาทเทียบรายได้กับปีก่อนหน้า โดยคาดว่าจะขนานไปในทิศทางเดียวกันกับอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ให้บริการภายในสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเติบโตเฉลี่ยที่ 10% โดยสัดส่วนของรายได้นั้นจะมาจากการปรับขึ้นราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นในพื้นที่มีการจราจรหนาแน่นอีกประมาณ 5-10% ต่อปี นอกเหนือจากนั้น ภายในไตรมาส 3/2559 นี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ในการเข้าบริหารค้าปลีกอีก 2 สถานี คือ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรม รวมทั้งสิ้น 7 สถานี จากทั้งหมดที่ได้เปิดให้บริการไปแล้ว 5 สถานีก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ในส่วนของรายได้ที่จากการบริหารพื้นที่โฆษณาบริเวณทางด่วน โครงการพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเข้าไปดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น