เสนาฯ เล็งสยายปีกรุกคืบโรงไฟฟ้าแดนปลาดิบ คาดได้ข้อสรุปภายในปี 59 แจงโครงการโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว ส่งผลให้บริษัทบุ๊กกำไรเต็ม 40-50 ล้านบาทต่อปี ยันเริ่มบุ๊กในงบการเงินปีนี้
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งลงทุนผ่านบริษัท SENA SOLAR ENERGY ที่ร่วมลงทุนกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ ว่า ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ตามแผน และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือน ม.ค.59 เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ จะรับรู้กำไรเข้ามาประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นในจังหวัดนครปฐม กำลังการผลิตรวม 24 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น 8 เมกะวัตต์ 3 โครงการ และในจังหวัดสระบุรี กำลังการผลิตรวม 22.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น 8 เมกะวัตต์ 2 โครงการ และ 6.5 เมกะวัตต์ 1 โครงการ
“ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ในการลงทุนของบริษัทฯ ที่รุกคืบเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน และเริ่มรับรู้รายได้ตามแผน โดยโครงการโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ ในจังหวัดสระบุรี และนครปฐม อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 11-14% ต่อปี ซึ่งทำให้การรับรู้รายได้จาก Recurring Income ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
ส่วนธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่บริษัทฯ ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เอท โซลาร์ จำกัด (Eight Solar) หรือ We solar เดิม เพื่อดำเนินการติดตั้ง และวางระบบ (EPC) โซลาร์รูฟท็อป โดยยังคงตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า ติดตั้งแผงโซลาร์ กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ และในปีหน้าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาราว 200 ล้านบาท และรับรู้เป็นกำไรกว่า 10%
กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งการลงทุนไม่ได้จำกัดเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นในอนาคต คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2559