หุ้นภาคบ่ายร่วงหนัก 25 จุด หรือ 2% ทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงขายในกลุ่มบิ๊กแคป ทั้งกลุ่มสื่อสาร แบงก์ และพลังงาน แม้ว่าหุ้น PTT จะบวกสวนตลาดฯ แต่ยังช่วยพยุงดัชนีฯ เอาไว้ไม่อยู่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากตัวเลข ศก.จีนที่ออกมาย่ำแย่กว่าคาด และความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น โบรกฯ ยอมรับแรงกดดันภายนอกวันนี้ค่อนข้างรุนแรง และตลาดทั่วโลกก็ปรับตัวลดลงค่อนข้างหนัก
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายไหลลงไปเป็นลบกว่า 20 จุด มองว่าเป็นผลจากแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาแย่กว่าที่คาด
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายในประเทศยังถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่หวือหวามากนัก เพราะเป็นนโยบายที่รับรู้กันไปมากแล้ว และไม่ได้แปลกใหม่
“แรงกดดันภายนอกค่อนข้างรุนแรง และตลาดทั่วโลกก็ปรับตัวลดลงค่อนข้างหนัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยลงไปด้วย แม้ว่าปัจจัยในประเทศจะยังเป็นบวก แต่คงไม่สามารถต้านปัจจัยภายนอกได้ ซึ่งเรามองว่าปัจจุบันราคาหุ้นไทยไม่ได้แพงแล้ว สามารถทยอยสะสมได้”
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.05 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,266.37 จุด ลดลง 21.65 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.68% มูลค่าการซื้อขาย 20,404.94 ล้านบาท โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับลงไปลึกที่ระดับ 1,262.81 จุด หรือลดลงกว่า 25 จุด
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.29 น. ดัชนีหุ้นไทยปรับลงไปที่ระดับ 1,263.51 จุด ลดลง 24.51 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.90% มุลค่าการซื้อขาย 21,897.46 ล้านบาท