ฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก สรุปราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลง 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 1.39% ปิดที่ระดับ 1,061 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยวอลุ่มการซื้อขายในตลาดทองคำมีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ปลีกตัวออกนอกตลาดเพื่อฉลองเทศกาลวันหยุดยาวช่วงใกล้สิ้นปี
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสดใส จากรายงานตัวเลขจีดีพี ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปี 58 ที่ขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด + รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นในเดือน ธ.ค. รวมถึงรายงานที่ว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน พ.ย. ทำให้มีแรงขายทองคำออกมาจากการที่นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผยออกมาช่วงสิ้นปี 2558 ออกมาไม่สดใสนักโดย ตัวเลขดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับลดลง ในเดือน พ.ย. + รายงานยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น รวมถึง IMF เผยว่าเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่น้อยกว่าการคาดการณ์ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาได้เล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนหันกลับเข้ามาลงทุนในทองคำอีกครั้งเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ปัจจัยที่น่าติดตาม
5 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือน ธ.ค.
6 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ธ.ค./ตัวเลขจ้างงานเดือน ธ.ค.จาก ADP/ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน พ.ย./ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ธ.ค./ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ย./ดัชนีภาคบริการเดือน ธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM)
7 ม.ค.คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 15-16 ธันวาคม/สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
8 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค./สต๊อกสินค้า และยอดค้าส่งเดือน พ.ย.
9 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือน พ.ย.
แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค : แนวโน้มฟื้นตัวช่วงสั้น ราคาทองฟื้นตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้ง หลังสร้างแท่งเทียนสัญญาณบวก TWEEZERS BOTTOM ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคเริ่มปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวก ทำให้ราคามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น แต่จะขึ้นได้ไม่มากเนื่องจากแนวลง DOUBLE TOP ยังกดดันอยู่ โดยมีแนวรับ 1,045-1,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้าน 1,080-1,085 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสดใส จากรายงานตัวเลขจีดีพี ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปี 58 ที่ขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด + รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นในเดือน ธ.ค. รวมถึงรายงานที่ว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน พ.ย. ทำให้มีแรงขายทองคำออกมาจากการที่นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผยออกมาช่วงสิ้นปี 2558 ออกมาไม่สดใสนักโดย ตัวเลขดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับลดลง ในเดือน พ.ย. + รายงานยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น รวมถึง IMF เผยว่าเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่น้อยกว่าการคาดการณ์ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาได้เล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนหันกลับเข้ามาลงทุนในทองคำอีกครั้งเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ปัจจัยที่น่าติดตาม
5 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือน ธ.ค.
6 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ธ.ค./ตัวเลขจ้างงานเดือน ธ.ค.จาก ADP/ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน พ.ย./ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ธ.ค./ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ย./ดัชนีภาคบริการเดือน ธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM)
7 ม.ค.คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 15-16 ธันวาคม/สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
8 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค./สต๊อกสินค้า และยอดค้าส่งเดือน พ.ย.
9 ม.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือน พ.ย.
แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค : แนวโน้มฟื้นตัวช่วงสั้น ราคาทองฟื้นตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้ง หลังสร้างแท่งเทียนสัญญาณบวก TWEEZERS BOTTOM ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคเริ่มปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวก ทำให้ราคามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น แต่จะขึ้นได้ไม่มากเนื่องจากแนวลง DOUBLE TOP ยังกดดันอยู่ โดยมีแนวรับ 1,045-1,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้าน 1,080-1,085 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
