ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เบนเข็มสู่พลังงานทางเลือกแบบตั้งต้นถึงปลายน้ำ เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรจากจีน คาดสรุปผลมกราคม 59 และรับรู้รายได้ปลายปี ขณะธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพลังงานลมจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 62 ดันให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเป็นรายได้หลัก
นายอภิเชฐ ปุสรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในช่วงการปรับโครงสร้างธุรกิจหลักเพื่อเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากเดิมที่มีธุรกิจมีเดียเป็นธุรกิจหลัก หลังจากบริษัทได้สะสางปัญหาภายในในช่วงที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในช่วงต่อไป ทำให้เชื่อมั่นว่าในปี 59 ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร
บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาแผนงานกับพันธมิตรรายใหญ่จากจีน หลังจาก บริษัท ดีมีเตอร์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกได้เข้าทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตแผงโซลาร์เซลล์กับ HAINAN YINGLI NEW ENERGY RESOURCES CO.,LTD คาดว่าจะมีข้อสรุปของแผนงานทั้งหมด ได้แก่ โครงสร้างการถือหุ้น ขนาดกำลังการผลิต และมูลค่าการลงทุน ในราวเดือน ม.ค.59 หลังจากนั้น จะหาพื้นที่โรงงาน และนำเข้าเครื่องจักรจากจีนเข้ามา คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน่าจะสร้างรายได้จากโครงการเฟสแรกเข้ามาภายในไตรมาส 4/59
โดยผลตอบแทนจาการลงทุน (IRR) ในโครงการร่วมทุนดังกล่าว บริษัทคาดหวังไว้ในระดับ 10-20% และหากในอนาคตทิศทางดีขึ้นคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ IRR ขยับเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับที่คาดหวัง
“ตอนนี้เราได้มีการ MOU สร้างโรงงานผลิตแผงโซล่าเซล์กับทาง HAINAN YINGLI เป็น 1 ใน 3 ของโลก แต่ความคืบหน้าหรือรายละเอียดจะทราบได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 59 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบลงทุน ปริมาณการขาย เบื้องต้น บริษัทฯ คาดหวัง IRR 10-20% ถ้าไปได้ดีน่าจะขยายตัวได้มากกว่านั้น และจะมีการขยายเฟส 2 ต่อเนื่องด้วย ซึ่งเรามุ่งหวังที่จะเป็นผู้เล่นในเรื่องพลังงานทดแทนตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ”
อนึ่ง HAINAN YINGLI NEW ENERGY RESOURCES CO.,LTD ถือเป็นบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายแผงโซลาร์สัญชาติจีนยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ มีสำนักงานใน 30 ประเทศทั่วโลก ผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์ไปแล้วกว่า 60 ล้านแผง กำลังการผลิตรวมกว่า 14 กิกะวัตต์ กระจายอยู่ 90 ประเทศทั่วโลก
สำหรับในช่วงตลอดทั้งปี 58 บริษัทได้คลี่คลายปัญหาต่างๆ เช่น ธุรกิจมีเดีย เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันสูง และธุรกิจมีเดียที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่นั้นได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ภายหลังจากการที่รัฐบาลเน้นไปให้ความสำคัญทางทีวีดิจิตอลมากกว่า ทำให้กำไรลดลง แต่ในอนาคตสัดส่วนรายได้จากธุรกิจมีเดียจะลดลง โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นรายได้หลักของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วินชัย จำกัด (WIND) ประกอบธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพลังงานลม จาก K-Shipping Co.,Ltd ในจำนวน 12,500 หุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน WIND คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 171.25 ล้านบาท ภายในเดือน ต.ค.58 โดยโครงการดังกล่าวได้รับ PPA เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำลังการผลิตที่ 45 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 62 โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีที่จะมาใช้กับโครงการ
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์และส่วนราชการ โดยบริษัทมีแผนยื่นขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ากำลังการผลิต 15-30 เมกะวัตต์ แต่หากไม่ได้รับใบอนุญาตบริษัทก็ได้เตรียมเข้าไปรับงานรับเหมาติดตั้งแผงโซลาร์แทน โดยปัจจุบันบริษัทมีบุคลากร และพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ที่สามารถเข้าร่วมรับงานได้
“ตอนนี้เราพยายามปรับเปลี่ยนบริษัทฯ เพื่อที่จะมีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเราคิดว่าหลังจากนี้ธุรกิจไฟฟ้าจะเป็นธุรกิจหลักที่จะช่วยให้ผลประกอบการเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯก็ถือว่ามีเงินทุนเพียงพอที่จะสามารถขยายธุรกิจได้ และยังมีความสามารถในการกู้เพิ่มเติมด้วย โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เป็น 0 เราตั้งใจจริงเราอยากให้บริษัทฯ เจริญเติบโตครับ”
นอกจากนี้ อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อประกอบกิจการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano-Finance) มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย Demeter Financials Inc. ซื้อหุ้น AJP จาก บริษัท มีเดีย เอเจนซี ไทย จำกัด สัดส่วน 9.41% ซึ่งปัจจุบัน NPL เป็น 0% เพราะบริษัทมีการจัดการที่ดี และควบคุมดูแลสินเชื่อที่ปล่อยไปได้อย่างดี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ยังไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเป็นการเริ่มต้น และพื้นที่ที่เริ่มปล่อยสินเชื่อ Nano-Finance คือ จ.กาฬสินธุ์
นายอภิเชฐ ปุสรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในช่วงการปรับโครงสร้างธุรกิจหลักเพื่อเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากเดิมที่มีธุรกิจมีเดียเป็นธุรกิจหลัก หลังจากบริษัทได้สะสางปัญหาภายในในช่วงที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในช่วงต่อไป ทำให้เชื่อมั่นว่าในปี 59 ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร
บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาแผนงานกับพันธมิตรรายใหญ่จากจีน หลังจาก บริษัท ดีมีเตอร์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกได้เข้าทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตแผงโซลาร์เซลล์กับ HAINAN YINGLI NEW ENERGY RESOURCES CO.,LTD คาดว่าจะมีข้อสรุปของแผนงานทั้งหมด ได้แก่ โครงสร้างการถือหุ้น ขนาดกำลังการผลิต และมูลค่าการลงทุน ในราวเดือน ม.ค.59 หลังจากนั้น จะหาพื้นที่โรงงาน และนำเข้าเครื่องจักรจากจีนเข้ามา คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน่าจะสร้างรายได้จากโครงการเฟสแรกเข้ามาภายในไตรมาส 4/59
โดยผลตอบแทนจาการลงทุน (IRR) ในโครงการร่วมทุนดังกล่าว บริษัทคาดหวังไว้ในระดับ 10-20% และหากในอนาคตทิศทางดีขึ้นคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ IRR ขยับเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับที่คาดหวัง
“ตอนนี้เราได้มีการ MOU สร้างโรงงานผลิตแผงโซล่าเซล์กับทาง HAINAN YINGLI เป็น 1 ใน 3 ของโลก แต่ความคืบหน้าหรือรายละเอียดจะทราบได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 59 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบลงทุน ปริมาณการขาย เบื้องต้น บริษัทฯ คาดหวัง IRR 10-20% ถ้าไปได้ดีน่าจะขยายตัวได้มากกว่านั้น และจะมีการขยายเฟส 2 ต่อเนื่องด้วย ซึ่งเรามุ่งหวังที่จะเป็นผู้เล่นในเรื่องพลังงานทดแทนตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ”
อนึ่ง HAINAN YINGLI NEW ENERGY RESOURCES CO.,LTD ถือเป็นบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายแผงโซลาร์สัญชาติจีนยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ มีสำนักงานใน 30 ประเทศทั่วโลก ผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์ไปแล้วกว่า 60 ล้านแผง กำลังการผลิตรวมกว่า 14 กิกะวัตต์ กระจายอยู่ 90 ประเทศทั่วโลก
สำหรับในช่วงตลอดทั้งปี 58 บริษัทได้คลี่คลายปัญหาต่างๆ เช่น ธุรกิจมีเดีย เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันสูง และธุรกิจมีเดียที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่นั้นได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ภายหลังจากการที่รัฐบาลเน้นไปให้ความสำคัญทางทีวีดิจิตอลมากกว่า ทำให้กำไรลดลง แต่ในอนาคตสัดส่วนรายได้จากธุรกิจมีเดียจะลดลง โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นรายได้หลักของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วินชัย จำกัด (WIND) ประกอบธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพลังงานลม จาก K-Shipping Co.,Ltd ในจำนวน 12,500 หุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน WIND คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 171.25 ล้านบาท ภายในเดือน ต.ค.58 โดยโครงการดังกล่าวได้รับ PPA เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำลังการผลิตที่ 45 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 62 โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีที่จะมาใช้กับโครงการ
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์และส่วนราชการ โดยบริษัทมีแผนยื่นขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ากำลังการผลิต 15-30 เมกะวัตต์ แต่หากไม่ได้รับใบอนุญาตบริษัทก็ได้เตรียมเข้าไปรับงานรับเหมาติดตั้งแผงโซลาร์แทน โดยปัจจุบันบริษัทมีบุคลากร และพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ที่สามารถเข้าร่วมรับงานได้
“ตอนนี้เราพยายามปรับเปลี่ยนบริษัทฯ เพื่อที่จะมีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเราคิดว่าหลังจากนี้ธุรกิจไฟฟ้าจะเป็นธุรกิจหลักที่จะช่วยให้ผลประกอบการเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯก็ถือว่ามีเงินทุนเพียงพอที่จะสามารถขยายธุรกิจได้ และยังมีความสามารถในการกู้เพิ่มเติมด้วย โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เป็น 0 เราตั้งใจจริงเราอยากให้บริษัทฯ เจริญเติบโตครับ”
นอกจากนี้ อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อประกอบกิจการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano-Finance) มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย Demeter Financials Inc. ซื้อหุ้น AJP จาก บริษัท มีเดีย เอเจนซี ไทย จำกัด สัดส่วน 9.41% ซึ่งปัจจุบัน NPL เป็น 0% เพราะบริษัทมีการจัดการที่ดี และควบคุมดูแลสินเชื่อที่ปล่อยไปได้อย่างดี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ยังไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเป็นการเริ่มต้น และพื้นที่ที่เริ่มปล่อยสินเชื่อ Nano-Finance คือ จ.กาฬสินธุ์
