โรงพยาบาลวิภาวดี เผยปี 59 ผลงานเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ผลจากการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาลเดิม พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีรายได้เข้ามาจากธุรกิจ Non-core business ที่ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ
นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ และกำไรสุทธิในปี 59 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาลเดิม พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีรายได้เข้ามาจากธุระกิจ Non-core business ที่ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัท ทิพยบดินทร์ จำกัด ที่ประกอบกิจการประเภทการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขยายตัวดี พร้อมเดินหน้าเจรจาการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง คาดเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่ง
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนในระยะ 5 ปี (59-63) มีเป้าหมายจะเปิดโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมด 8 แห่ง หรือเปิดเพิ่มอย่างน้อย 1 แห่ง/ปี ใช้งบลงทุนเฉลี่ยปีละ 300-400 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งในปีหน้าจะเปิดโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร จากนั้นในปลายปีหน้าถึงต้นปี 60 โรงพยาบาลวิภาราม นวมินทร์ และโรงพยาบาลวิภาราม เทพารักษ์ ส่วนปี 61 เปิดโรงพยาบาลวิภาราม ธัญเวช ปี 62 เปิดโรงพยาบาลวิภาราม ระยอง และปี 63 จะเปิดโรงพยาบาลวิภาราม ธนบุรี
ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังมีการเจรจาการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่ง พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีการเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ปัจจุบันก็ได้มีการพูดคุยกับนักลงทุนจากจีน และพม่าไว้บ้างแล้ว
ทั้งนี้ งบลงทุนที่จะใช้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่องจะมาจากการระดมทุนเงินที่คาดว่าจะได้จากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) ราว 1.2 พันล้านบาท ในขณะเดียวกัน ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้เพิ่มเติมด้วย เพราะบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E RATIO) เพียง 0.86 เท่า
“นอกจากเราจะมีการเติบโตจากโรงพยายาบาลเดิมที่มีการขยายตัวแล้ว เรายังมีการขยายโรงพยาบาลใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นทั้งการเข้าซื้อ การก่อสร้างเอง นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เรายังมีเงินเพียงพอที่จะขยายไปในระยะเวลา 5 ปี และไม่จำเป็นที่จะต้องรบกวนผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุน” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 596 ล้านบาท และรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากรายได้ในปีก่อนที่ราว 5 พันล้านบาท โดยเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี และในช่วงครึ่งปีหลังยังจะเติบโตค่อนข้างมากจากโรคไข้เลือดออกที่มีการระบาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ และกำไรสุทธิในปี 59 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาลเดิม พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีรายได้เข้ามาจากธุระกิจ Non-core business ที่ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัท ทิพยบดินทร์ จำกัด ที่ประกอบกิจการประเภทการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขยายตัวดี พร้อมเดินหน้าเจรจาการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง คาดเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่ง
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนในระยะ 5 ปี (59-63) มีเป้าหมายจะเปิดโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมด 8 แห่ง หรือเปิดเพิ่มอย่างน้อย 1 แห่ง/ปี ใช้งบลงทุนเฉลี่ยปีละ 300-400 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งในปีหน้าจะเปิดโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร จากนั้นในปลายปีหน้าถึงต้นปี 60 โรงพยาบาลวิภาราม นวมินทร์ และโรงพยาบาลวิภาราม เทพารักษ์ ส่วนปี 61 เปิดโรงพยาบาลวิภาราม ธัญเวช ปี 62 เปิดโรงพยาบาลวิภาราม ระยอง และปี 63 จะเปิดโรงพยาบาลวิภาราม ธนบุรี
ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังมีการเจรจาการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่ง พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีการเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ปัจจุบันก็ได้มีการพูดคุยกับนักลงทุนจากจีน และพม่าไว้บ้างแล้ว
ทั้งนี้ งบลงทุนที่จะใช้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่องจะมาจากการระดมทุนเงินที่คาดว่าจะได้จากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) ราว 1.2 พันล้านบาท ในขณะเดียวกัน ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้เพิ่มเติมด้วย เพราะบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E RATIO) เพียง 0.86 เท่า
“นอกจากเราจะมีการเติบโตจากโรงพยายาบาลเดิมที่มีการขยายตัวแล้ว เรายังมีการขยายโรงพยาบาลใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นทั้งการเข้าซื้อ การก่อสร้างเอง นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เรายังมีเงินเพียงพอที่จะขยายไปในระยะเวลา 5 ปี และไม่จำเป็นที่จะต้องรบกวนผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุน” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 596 ล้านบาท และรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากรายได้ในปีก่อนที่ราว 5 พันล้านบาท โดยเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี และในช่วงครึ่งปีหลังยังจะเติบโตค่อนข้างมากจากโรคไข้เลือดออกที่มีการระบาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการมากขึ้น