KTC แถลงแผนการดำเนินงานปี 59 ตั้งเป้าหมายธุรกิจบัตรโต 15% หรือยอดรวมการใช้จ่าย 1.7 แสนล้าน แต่กำไรเท่าปีนี้ หรืออยู่ที่ 2 พันล้าน เหตุผันงบลงทุนทั้งด้านบุคลากร กระบวนการ และไอที เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มจาก 9% เป็น 15% ปัดใช้เงินอุดรูรั่วจนทำให้กำไรเท่าเดิม เผยกลยุทธ์ผ่านช่องทางกรุงไทยทั่วประเทศ ใช้คนแบงก์ช่วยสอยลูกค้าเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) นำโดยนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าบริหารอาวุโส-คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส-ช่องทางการจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต และ น.ส.สุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล ร่วมกันแถลง ข่าวทิศทางธุรกิจปี 2559 ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายระเฑียร กล่าวว่า ทิศทางของ KTC ในปีหน้า ถือเป็นจังหวะที่บริษัทจะมุ่งการทำงานให้เข้มข้นขึ้นแบบองค์รวม ความเป็นหนึ่งเดียวทั้งธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจร้านค้า การบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายและออนไลน์ โดยจะรักษาผลกำไรให้คงที่ เติบโต 2 พันล้านบาท เท่ากับปี 2558 มีการจัด สรรงบการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 9% ให้เป็น 15% แผนธุรกิจในปีหน้าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น แต่หากเทียบกับอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ย KTC เติบโตสูงกว่ามาตลอด โดยเป้าหมายจำนวนสมาชิกใหม่ในปี 59 อยู่ที่ 546,000 ราย แบ่งเป็นสมาชิกบัตรเครดิต 400,000 ราย และสินเชื่อส่วนบุคคล 146,000 ราย ทั้งนี้ KTC มีเป้าหมายสินเชื่อส่วนบุคคลโต 15% เช่นเดียวกับบัตรเครดิตโต 15% หรือมียอดรวมการใช้จ่ายประมาณ 170,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา KTC เติบโตแบบก้าวกระโดดมาตลอด ดังนั้น การจะก้าวกระโดดต่อเนื่องทุกปีคงเป็นไปไม่ได้ ปีหน้าเราจึงขอกำไรเท่าเดิมเพื่อนำเงินไปลงทุนพัฒนาองค์กรทั้งเรื่องคน แบรนด์ที่ง่ายแต่ดี วัฒนธรรมที่ลูกค้ารู้สึกและเข้าใจตรงกัน ผมจะลงไปดูแลเรื่องบุคลากรด้วยตัวเอง ประการต่อมากระบวนการที่กระชับ ให้อำนาจเด็ดขาดในแต่ละหัวหน้าฝ่าย สุดท้ายการลงทุนระบบไอทีที่วันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ในปี 2560 กำไรเราจะสูงขึ้นอีกครั้ง”
ต่อคำถามที่ว่าทำไมกำไรจึงเท่าเดิม มีการนำเงินไปใช้หนี้หรือลงทุนระบบไอที นายระเฑียร ยืนยันว่า ไม่มี แต่เป็นผลจากหลายปัจจัย เช่น ปีหน้ากฎหมายบังคับใช้เพดานการติดตามหนี้ตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ทยอยปรับลดลงจากครั้งละ 250 บาท เหลือไม่เกิน 100 บาท ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยง แม้ในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตถือว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ปีหน้าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะยังชะลอตัว
นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าบริหารอาวุโส-คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ กล่าวเสริมว่า ปี 59 บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ 15,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5, 7, 10 ปี ต้นทุนโดยเฉลี่ย 3.9% ส่วนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีหน้า วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.5% เชื่อว่า บริษัทจะมีสภาพคล่องสูงต้นทุนการจัดการที่ต่ำลง และยังเป็นช่วงจังหวะที่ดอกเบี้ยต่ำ
ด้านนางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ลูกค้าในต่างจังหวัดเริ่มเติบโตขึ้นมาใกล้เคียงกับใน กทม. โดยเฉพาะในจังหวัดเศรษฐกิจและจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่ง KTC ได้ฐานลูกค้าจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งช่วยได้มาก มีการประสานงานทั้งด้านข้อมูลลูกค้า การให้คนของธนาคารเป็นตัวแทนขายผ่านช่องทางทุกสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
“ปี 59 เราจะต่อยอดจากปีนี้ด้วยการจับกลุ่มลูกค้าระดับบน และการให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น จะต้องตอบสนองลูกค้าทั้งด้านกินชอปเที่ยว นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูงมากให้เพิ่มขึ้นด้วย” นางพิทยา ย้ำ.
