ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายโจมตีหลายละลอกที่กรุงปารีส นับเป็นเหตุการณ์ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตหลายราย และหลายคนถูกจับเป็นตัวประกัน โดยกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีในกรุงปารีส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 คน และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย
ถึงแม้ในคืนวันศุกร์ราคาทองจะร่วงลงมาปิดใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีนับเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี แต่หลังจากเกิดเหตุโจมตีรุนแรงเกิดขึ้นทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ตลาดเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองให้ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และเกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งทำให้สัญญาดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ล่วงหน้าร่วงลง ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดที่ 1,097.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเกือบ 1.4%
แต่ในวันต่อมาราคาทองคำร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยถูกกดดันจากการที่ค่าเงินดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนหันเหความสนใจจากเหตุระเบิดในกรุงปารีส มาที่การคาดการณ์มากขึ้นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.2% มาที่ 99.534 หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 7 เดือน ที่99.584 อันเนื่องมาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ปัจจัยดังกล่าวได้กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2010 หรือในรอบ 6 ปี ที่ 1,065.18 ดอลลาร์/ออนซ์
นับว่าเหตุการณ์โจมตีร้ายแรงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสได้ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกต่อราคาทองคำระยะสั้นๆ เท่านั้น และไม่อาจบดบังกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าได้ ดังนั้น นักลงทุนยังคงต้องให้ความสำคัญต่อปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟด เช่น ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขในตลาดแรงงาน และตัวเลขที่บ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟดในขณะที่การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 16-17 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้แล้ว ยังต้องติดตามสถานการณ์ของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเพื่อให้นักลงทุนสามารถทำกำไรในสถานการณ์ที่ราคาทองคำมีความผันผวนเช่นนี้ได้
