สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ต้นแบบในภูมิภาค เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาว ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนในการวิจัย พัฒนา รวมทั้งการลงทุนจัดตั้งศูนย์ทดสอบสมรรถนะยานยนต์อย่างครบวงจรในประเทศไทยต่อไป
มาตรการดังกล่าวจะก่อให้เกิดการลงทุน และการจ้างงาน รวมทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาว
สำหรับผู้ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรจะต้องเป็นผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ที่ได้รับอนุมัติตามประกาศที่กรมสรรพสามิตกำหนด
ผู้ประกอบอุตสาหกรรมซึ่งส่งมอบรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบให้แก่ผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ที่ได้รับอนุมัติตามประกาศที่กรมสรรพสามิตกำหนด
ทั้งนี้ รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร หมายถึง รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่มีภาระภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต ที่ไม่เคยมีจำหน่ายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ผลิตภายในประเทศ หรือนำเข้า มีสภาพใหม่ หรือใช้แล้ว ขณะเดียวกัน ต้องไม่เคยจดทะเบียนการใช้งานมาก่อน
นอกจากนี้ รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่จะใช้เพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะของผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะที่ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพสามิตในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรสำหรับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต้นแบบ ได้แก่ การยกเว้นอากรขาเข้า การยกเว้นภาษีสรรพสามิต ไม่มีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม และการหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบจากมูลค่าต้นทุนทั้งหมดในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้
การดำเนินมาตรการดังกล่าว เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปด้วยความรอบคอบ จะมีการดำเนินการ ดังนี้
กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานมีหน้าที่ในการรับรอง ควบคุม และตรวจสอบ รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินการแก้ไขระเบียบสำหรับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพสามิตไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากกระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร จะดำเนินการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วต่อไป