ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยฟื้นตัวอีกเล็กน้อย หลังผ่านเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในปารีส ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น คาดแรงซื้อ แอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ เข้ามาต่อเนื่อง ส่วนตัวเลข GDP ของไทยออกมาดีในเชิง Positive ซึ่งยังต้องรอการสัญญาณฟื้นจากภาคเอกชนด้วย ดังนั้น ตลาดฯ จึงน่าจะเป็น Sideway Up
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 พ.ค.) เป็นภาพของการแกว่งแคบ โดยบวกได้น้อยกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่บวกเฉลี่ย 0.6% จากการเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ขณะที่วานนี้ (16 พ.ย.) ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นไปได้ระดับหนึ่งแล้ว
สำหรับตัวเลข GDP ของไทยออกมาดีในเชิง Positive ซึ่งยังต้องรอการสัญญาณฟื้นจากภาคเอกชนด้วย ดังนั้น ตลาดฯ จึงน่าจะเป็น Sideway Up อีกทั้งคาดว่าจะได้แรงหนุนจาก LTF-RMF ด้วยซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลลงทุน
อย่างไรก็ตาม คืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งสหรัฐฯ ทั้งผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งตลาดมองจะบวก 0.1% และตัวเลขเงินเฟ้อที่จะมีผลต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยเฉพาะโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย
ด้านนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัดฟื้นตัวเล็กน้อย หลังผ่านเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในปารีส ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2558 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้เป็นปัจจัยบวกระยะสั้น รวมถึงมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามา คาดว่ามาจากกองทุน LTF และ RMF ที่เข้ามาซื้อต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามวันที่ 18 พ.ย.นี้ จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟด ในรอบที่ผ่านมาว่า จะมีการส่งสัญญาณใดบ้าง เพราะอาจจะมีผลต่อการประชุมเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,390.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.11% มูลค่าการซื้อขาย 40,866.19 ล้านบาท
ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,020.34 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 331.55 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 744.80 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศขายสุทธิ 1,607.10 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) เชื่อว่า ตลาดฯ ยังมีโอกาสแกว่งแดนบวกในกรอบแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,387-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,407 จุด