ในช่วงชีวิตหนึ่งนั้น คนทุกคนอยากมีบ้านเป็นของตนเองอย่างน้อยหนึ่งหลัง ดังนั้น เมื่อถึงวัยอันสมควร และมีความพร้อมทางเศรษฐกิจ ทุกคนก็อยากปลูกสร้างบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่แล้วการปลูกสร้างบ้านเป็นการใช้เงินที่เก็บออม หรือหาได้มาในเวลาเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตการทำงาน การปลูกสร้างบ้านสักหลังหนึ่งจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง การเลือกแบบบ้าน การเลือกช่างผู้รับเหมา หรือบริษัทรับสร้างบ้านเหล่านี้เป็นต้น
ในปัจจุบัน มีบริษัทรับสร้างบ้านอยู่มากมาย แต่การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นมืออาชีพจริงๆ จะช่วยให้ได้บ้านดังที่ตั้งใจ และไม่ต้องมีปัญหาจุกจิกกวนใจ ทั้งในระหว่างการก่อสร้างและหลังจากสร้างบ้านเสร็จแล้ว การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจึงควรพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้เขียนจะได้นำเสนอรายละเอียดเป็นหัวข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้
คุณภาพของงานก่อสร้าง
เพราะการสร้างบ้านนั้นต้องใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก จึงมีความสำคัญต่อเจ้าของบ้านมาก ดังนั้น เรื่องคุณภาพของการก่อสร้างจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรให้ความสนใจ ซึ่งคุณภาพของการก่อสร้างจะดีได้ก็ต้องมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องครบถ้วนสมบูรณ์ อันได้แก่ การออกแบบ การก่อสร้าง การควบคุมและตรวจสอบการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าของบ้านจึงควรศึกษารายละเอียดดังกล่าวของบริษัทที่ท่านจะเลือกว่ามีทีมงานสถาปนิก และวิศวกรที่เชี่ยวชาญหรือไม่ และการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นอย่างไร มีเจ้าของบ้านบางรายที่ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องวัสดุ แต่เทียบราคาค่าก่อสร้าง เมื่อเห็นว่าบริษัทใดเสนอราคาต่ำกว่าก็ตัดสินใจเลือกเลย ในที่สุดก็ได้บ้านที่ใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีปัญหาตามมามากมาย บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นมืออาชีพนั้นจะต้องมีทีมงานสถาปนิก และวิศวกรประจำพร้อมที่จะให้คำแนะนำแก่เจ้าของบ้าน มีรายการวัสดุก่อสร้างแสดงไว้ครบถ้วน เจ้าของบ้านจึงรู้ข้อมูลได้เลยว่าการก่อสร้างบ้านในราคาเท่านี้ มีขั้นตอนการทำงาน และการควบคุมตรวจสอบอย่างไร ใช้วัสดุอะไร และที่สำคัญคือ มีการรับประกันการก่อสร้างอย่างไร สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของบริษัทรับสร้างบ้าน
แบบบ้านหลากหลายดีไซน์
โดยปกติบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่มีทีมงานสถาปนิก และวิศวกรที่เชี่ยวชาญ จะมีแบบบ้านไว้ให้เจ้าของบ้านเลือกได้หลากหลายสไตล์ โดยแต่ละบริษัทจะมีแบบบ้านให้เลือกตั้งแต่ 50-200 แบบ เจ้าของบ้านเพียงแต่มีความคิดเริ่มต้นว่าต้องการบ้านสไตล์ไหน พื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ ต้องการแบ่งพื้นที่ภายในอย่างไร เพียงเท่านี้สถาปนิกของบริษัทก็นำเสนอแบบบ้านให้ท่านได้เลือกได้ตามที่ท่านต้องการ หรือเจ้าของบ้านซึ่งมีความต้องการอยู่ในใจแล้วเมื่อเห็นแบบบ้านที่ตรง หรือใกล้เคียงกับที่คิดไว้ก็จะเลือกได้ง่ายขึ้น และอาจจะบอกสิ่งที่ต้องการเพิ่มขึ้น หรือลดลงบางส่วนของบ้านตามความต้องการของตนจากแบบแปลนได้ วิธีนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านและสถาปนิกของบริษัทมีความเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของบ้านต้องการตรงกัน ทำให้การพูดคุย หรือการทำงานในขั้นตอนต่อไปง่ายขึ้นด้วย
ในกรณีที่เจ้าของบ้านไม่พอใจแบบที่บริษัทมีอยู่เลย ต้องการแบบใหม่ตามความต้องการของตนโดยเฉพาะ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพก็พร้อมที่จะให้บริการในส่วนนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าของบ้านให้รายละเอียดเรื่องขนาดของที่ดิน ขนาดของบ้านที่ต้องการ การแบ่งสัดส่วนในบ้าน รูปทรงและรายละเอียดบางอย่างประกอบ สถาปนิกของบริษัทก็จะออกแบบบ้านตามที่ท่านต้องการ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเจ้าของบ้านจะเลือกแบบที่บริษัทมีอยู่แล้ว หรือให้บริษัทออกแบบใหม่ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพต้องสนองความต้องการของจ้าของบ้าน โดยต้องคำนึงถึงความพึงพอใจของเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ นี่คือข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ
ราคาที่เหมาะสม
ผู้เขียนเองก็เชื่อว่าผู้รับเหมารายย่อยอาจจะสามารถสร้างบ้านได้ในราคาที่ต่ำกว่าบริษัทรับสร้างบ้านได้จริง แต่อยากให้ข้อคิดต่อเจ้าของบ้านว่า เมื่อท่านตกลงสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านนั้น ราคาบ้านจะคงที่ ณ วันเซ็นสัญญาตกลงกันไว้เท่าไหร่ก็ราคาเท่านั้นจนกว่าบ้านจะเสร็จ นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงรายการในสัญญาก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาบ้าง แต่ก็เป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก สมมติว่าบ้านหลังหนึ่งราคา 5 ล้าน 3 แสนบาท ใช้เวลาสร้าง 10 เดือน ราคาที่ตกลงกัน ณ วันเซ็นสัญญานี้จะคงที่จนกว่าบ้านจะเสร็จ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าในระยะเวลา 10 เดือนที่มีการก่อสร้างนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างไร เช่น น้ำมันขึ้นราคาไปกี่ครั้ง ราคาค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าขนส่งจะขึ้นไปอีกกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่บริษัทรับสร้างบ้านยังคงสร้างบ้านให้ท่านในราคาเท่าเดิม เจ้าของบ้านจึงไม่ต้องวิตกว่าราคาบ้านจะบานปลายตามสภาพความผันผวนทางเศรษฐกิจจนควบคุมไม่ได้
อีกอย่างหากเจ้าของบ้านที่คิดจะประหยัดค่าใช้จ่ายโดยจ้างค่าแรงกับผู้รับเหมาแล้วจัดซื้อวัสดุเองอาจจะไม่สามารถควบคุมราคาค่าก่อสร้างได้ เพราะการสั่งซื้อวัสดุจะสั่งซื้อตามงวดงานไม่ได้สั่งไว้ทั้งหมดตั้งแต่ต้น หากราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นก็จะต้องซื้อในราคาที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งตลอดระยะเวลาการก่อสร้างอาจจะมีการปรับเปลี่ยนราคาสูงขึ้น จึงส่งผลให้ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากที่คำนวณไว้ในตอนต้นได้
นอกจากนี้ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพยังมีการรับประกันงานก่อสร้างตามระยะเวลาที่บริษัทกำหนด ซึ่งอาจจะมีระยะเวลาการรับประกันสูงถึง 15 ปี โดยจะมีการตรวจเยี่ยมเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าของบ้านจะมั่นใจได้ว่าหากมีปัญหาใดๆ บริษัทก็ยังให้บริการช่วยเหลือดูแล
ตรงต่อเวลาตามสัญญา
เมื่อเจ้าของบ้านสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพแล้ว ท่านจะเห็นกำหนดการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะแสดงขั้นตอนการก่อสร้างว่าเริ่มงานขั้นที่หนึ่ง หรือที่เรียกว่า งวดที่หนึ่งเมื่อไหร่ และเสร็จการก่อสร้างงวดที่หนึ่งเมื่อไหร่ หากงานก่อสร้างบ้านของท่านมี 10 งวด ท่านก็จะรู้ระยะเวลาการก่อสร้างของแต่ละงวดล่วงหน้าพร้อมกับวันกำหนดสร้างเสร็จ อาจจะมีสถานการณ์บางอย่างที่ไม่ได้คาดคิดล่วงหน้า ทำให้ระยะเวลาผิดเพี้ยนไปบ้างแต่ก็น้อยมาก เพราะบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่มีทีมงานพร้อมจะไม่ประสบปัญหาช่างทิ้งงาน หาช่างไม่ได้ สั่งของไม่ได้ หรือปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งนี้ เพราะบริษัทจะมีการวางแผนการก่อสร้างล่วงหน้า ตั้งแต่เริ่มเซ็นสัญญา โดยบริษัทจะต้องรักษาเวลาในการก่อสร้างบ้านแต่ละหลังอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการก่อสร้างหลังอื่นๆ หากบริษัทไม่สามารถควบคุมกำหนดการก่อสร้างให้เป็นไปตามกำหนดได้ ย่อมกระทบต่อการทำงานของบริษัททั้งระบบได้
นอกจากการหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวแล้ว บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพถือเป็นความรับผิดชอบสำคัญที่ต้องทำการก่อสร้างให้ตรงเวลา เพราะต้องการให้เจ้าของบ้านสามารถวางแผนงานที่ต่อเนื่องหลังการรับมอบบ้าน เช่น การตกแต่งภายใน การจัดสวน หรืองานที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอื่นๆ เพราะการแสดงความรับผิดชอบดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ การสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจึงมั่นใจได้ว่าบ้านของท่านจะสร้างเสร็จตรงเวลา
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของงานก่อสร้าง การใช้วัสดุจากธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไม้” เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง บริษัทรับสร้างบ้านก็ตระหนักในความสำคัญของปัญหานี้จึงได้พยายามลดการใช้ไม้ในการก่อสร้าง และใช้วัสดุทดแทน ในระยะแรกๆ ก็ต้องมีภาระหนักในการชี้แจงทำความเข้าใจต่อลูกค้าผู้สร้างบ้านที่ยังคงต้องการใช้ไม้จากธรรมชาติ หลังจากที่ใช้ความพยายามมากกว่าครึ่งทศวรรษ บริษัทรับสร้างบ้านก็สามารถทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าการใช้วัสดุทดแทนนั้นมีคุณภาพไม่ด้อยกว่าใช้วัสดุธรรมชาติ
เนื่องจากมีบริษัทรับสร้างบ้านเป็นจำนวนมากเมื่อพร้อมใจกันใช้วัสดุทดแทนในการก่อสร้างจึงสามารถช่วยลดการใช้ไม้ได้ในปริมาณมากทีเดียว ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมกันแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าบริษัทจะเป็นองค์กรประเภทแสวงหากำไร..แต่ก็ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ที่มา : เกร็ดความรู้จากบริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม