xs
xsm
sm
md
lg

ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ โรดโชว์ก่อนขายไอพีโอ 168 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ ควงที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เดินสายโรดโชว์นักลงทุน 4 จังหวัด “ขอนแก่น- สงขลา-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ” โชว์ศักยภาพแกร่ง ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มในโถกดใน 7-Eleven คาดขายไอพีโอ 168 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนตลาด mai ในช่วงปลายปีนี้ ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “ชัชชวี วัฒนสุข” เตรียมนำเงินไปขยายธุรกิจเครื่องกดเครื่องดื่มอัตโนมัติร่วมกับพันธมิตร มั่นใจช่วยผลักดันรายได้-กำไรในอนาคตเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำ TACC เดินสายโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนรายย่อย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนรู้จัก และมีความเข้าใจในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 168 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปลายปี 2558 โดยจะทำการโรดโชว์ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น ในวันที่ 6 พ.ย., อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 9 พ.ย., จ.เชียงใหม่ 10 พ.ย. และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 20 พ.ย.

“ผมมั่นใจว่าการเดินสายโรดโชว์ของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก TACC เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งโดยการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Key Strategic Partner) กับ CPALL มานานกว่า 12 ปี และมีการพัฒนาสินค้าร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทให้ความสำคัญต่อการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมาก และล่าสุด ก็มีแผนการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจเครื่องกดเครื่องดื่มอัตโนมัติเพื่อให้บริการในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่จะต่อยอดการเติบโตของบริษัทได้อย่างมั่นคงในอนาคต” นายสมภพ กล่าว

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) กล่าวว่า การเดินทางไปโรดโชว์ในครั้งนี้บริษัทจะนำเสนอข้อมูลของ TACC ทั้งในส่วนของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในฐานะที่เป็น Key Strategic Partner ของ 7-Eleven และการเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในกัมพูชา ครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) มากกว่า 50% รวมถึงโอกาสในการเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่เป็น B2C โดยหลังจากระดมทุนบริษัทเตรียมนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจด้านเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (Vending Machine) เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ
 
โดยบริษัทวางเป้าหมายติดตั้งเครื่อง Vending Machine ให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่อง ภายในปี 2560 และมุ่งเน้นการส่งออกเครื่องดื่มตรา “สวัสดี” ไปยังประเทศจีน โดยเครื่องดื่ม “สวัสดี” เป็นสินค้าที่สร้างความแตกต่างโดยพัฒนาให้เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของชิ้นเนื้อผลไม้ โดยใช้จุดแข็งของผลไม้ไทยที่มีความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นนมทุเรียนผสมเนื้อทุเรียน หรือนมมะม่วงผสมเนื้อมะม่วง

“จุดแข็งของเราคือ การที่เราเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง (Key Strategic Partner) ของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทยอย่าง 7-Eleven ที่มีสาขากระจายทั่วประเทศกว่า 8,000 สาขา และมียอดขายกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี ทำให้เห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ และความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งรูปแบบ และรสชาติ รวมทั้งเรามีทีมการตลาดที่มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทอาหาร และเครื่องดื่มชั้นนำ ทำให้สามารถวางกลยุทธ์การตลาด และการขายที่เหมาะสมต่อกลุ่มเป้าหมาย และช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจากจุดแข็งที่กล่าวมานั้นทำให้เชื่อว่า เมื่อหุ้น TACC เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี” นายชัชชวี กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ TACC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชา และกาแฟ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทร่วมพัฒนากับพันธมิตรทางการค้า (Business to Business หรือ B2B) ซึ่งจะเป็นเครื่องดื่มในโถกดที่ร่วมพัฒนากับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL)

เพื่อวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ “7-Eleven” ที่มีสาขากระจายทั่วประเทศ เช่น กาแฟเย็น ซึ่งเป็นตราสินค้าของ 7-Eleven และชานม ภายใต้ตราสินค้า “เชนย่า” (Zenya) ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทฯ อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตามฤดูกาล เช่น กาแฟลาเต้ ชากลิ่นจับเลี้ยง ชาเขียวมัทฉะ ชาเขียวนมกลิ่นแคนตาลูป โอเลี้ยง และกาแฟสูตรเย็นเจ ให้แก่ 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัท (Business to Consumer หรือ B2C) เช่น ชาเขียวพร้อมดื่มตรา “เชนย่า” (Zenya), กาแฟปรุงสำเร็จตรา “วีสลิม” (VSlim) ซึ่งเป็นกาแฟเพื่อสุขภาพ และควบคุมน้ำหนัก โดย VSlim เป็นยี่ห้อแรกที่ผลิตกาแฟเพื่อสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักในรูปแบบกระป๋อง และเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง ตรา “ณ อรุณ” (Na Arun) และ “สวัสดี” (Sawasdee) ซึ่งเน้นจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 1,007.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.84 ล้านบาท และงวด 6 เดือน ปี 2558 (เดือน ม.ค.-มิ.ย.2558) มีรายได้รวม 498.92 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 38.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 69.05 โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทในแต่ละปี ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น