โรงพยาบาลลาดพร้าวเทรดวันแรกเหนือจอง ราคาปิดที่ 7.10 บาท จากราคาจอง IPIO หุ้นละ 5 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท หรือ 42% มูลค่าซื้อขาย 5,175,243 ล้านบาท “ดร.อังกูร” ปลื้มนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุน LPH จำนวนมาก คาดเป็นผลจากศักยภาพธุรกิจแกร่ง มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนอย่างคุ้มค่า และยึดหลักบรรษัทภิบาล
วานนี้ (27 ต.ค.) หุ้นของ บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดที่ 7 บาท ระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 7.10 บาท ต่ำสุดที่ 6.85 บาท และเมื่อปิดตลาดราคาอยู่ที่ 7.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท หรือ 42% จากราคาจองซื้อ IPOที่หุ้นละ 5 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5,175,243 ล้านบาท
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่งกับผลตอบรับการซื้ขายหุ้นเป็นวันแรกของ LPH
โดยราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 7 บาท ปรับเพิ่มขึ้นถึง 40% จากราคาไอพีโอที่ 5 บาทต่อหุ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการเติบโตในอนาคต และเชื่อว่า LPH จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
“LPH ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนตั้งแต่ช่วงเดินสายโรดโชว์ และการจองซื้อ ทั้งกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อเข้ามาอย่างล้นหลาม ซึ่งถือว่านักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นไอพีโอ แต่เป็นลักษณะการเลือกลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดย LPH มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต และความเสี่ยงในธุรกิจต่ำ” นางพัชพร กล่าว
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LPH เปิดเผยถึงราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มธุรกิจการแพทย์ในวันนี้ว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ บริษัทฯ พร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพ และการเติบโตต่อไปในอนาคต ไม่ทำให้นักลงทุน และผู้ถือหุ้นผิดหวัง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่า และยึดหลักธรรมาภิบาล โดยจะนำไปขยายธุรกิจตามโครงการลงทุนในอนาคตของบริษัทฯ รวมถึงใช้ชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลง และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
“ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงถึง 42% ในวันนี้ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมั่นใจในธุรกิจของ LPH โดยบริษัทฯ มีโครงการในอนาคตที่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้ และกำไร โดยมีแผนการลงทุนในช่วงปี 2559-2562 ประกอบด้วยการพัฒนาการแพทย์เฉพาะทางให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งจากแผนโครงการที่กล่าวมา จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี” ดร.อังกูร กล่าว