“คลัง” เผยผลจัดเก็บรายได้รัฐบาลปีงบ 58 ยังต่ำกว่าเป้า 5.1% คาดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ กระทบต่อการประกอบการของภาคธุรกิจ แย้มแนวทางบริหารจัดการปีงบ 59 เล็งให้รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียนต่างๆ นำส่งสภาพคล่องส่วนเกินความจำเป็นเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของ 3 กรมจัดเก็บภาษี จะต้องเร่งหาแนวทางการบริหารจัดการด้านอื่นด้วย
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-ก.ย.58) อยู่ที่ 2,207,476 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 117,524 ล้านบาท หรือ 5.1% แต่ยังสูงกว่าปีที่แล้ว 6.4% โดยในเดือน ก.ย.58 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 208,840 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3,709 ล้านบาท หรือ 1.7%
ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงตั้งแต่ปลายปี 2557 ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียม ต่ำกว่าประมาณการ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจปี 2557 ที่ชะลอตัวลง และเศรษฐกิจในปี 2558 ยังไม่ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ กระทบต่อการประกอบการของภาคธุรกิจ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2559 กระทรวงการคลัง ได้บริหารจัดการโดยให้รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียนต่างๆ นำส่งสภาพคล่องส่วนเกินความจำเป็นเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน
“การจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2559 นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพของ 3 กรมจัดเก็บภาษี กระทรวงการคลังจะต้องเร่งหาแนวทางการบริหารจัดการด้านอื่นๆ เพื่อให้การจัดเก็บรายได้เป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคต่างๆ จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตัวที่ดีขึ้น และจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในอนาคตต่อไป” นายกฤษฎา กล่าวสรุป