“คลัง” เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือน ส.ค.58 อยู่ที่ระดับ 42.81% ต่อ GDP เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค.58 มีจำนวน 5,736,644.08 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.81% ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 18,171.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ หนี้ของรัฐบาลมียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้น 19,508.47 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 33,000 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศ และต่างประเทศ จำนวน 6,025.17 ล้านบาท ประกอบด้วย การกู้เงินเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อ จำนวน 2,661.08 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 791.67 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว และสายสีม่วง การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 68.02 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง และ บมจ.การบินไทย (THAI) จำนวน 1,801.39 ล้านบาท สำหรับโครงการซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-600
สำหรับการกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ จำนวน 3,147 ล้านบาท การชำระหนี้ต้นเงินกู้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 20,345 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟู (FIDF 1) จำนวน 13,466.33 ล้านบาท และภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่ 2 (FIDF 3) จำนวน 6,878.67 ล้านบาท
ส่วนหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้น 5,293.34 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากผลของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ เพิ่มขึ้น 6,685.19 ล้านบาท การชำระคืนหนี้มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้หนี้ลดลง 1,391.85 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้ต่างประเทศของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 1,599.39 ล้านบาท การไถ่ถอนพันธบัตรของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2,000 ล้านบาท และการออกพันธบัตรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3,000 ล้านบาท เพื่อการลงทุนตามโครงการ และเป็นเงินบาทสมทบสำหรับโครงการเงินกู้ต่างประเทศ
ขณะที่หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 7,478.14 ล้านบาท โดยมีรายการที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระหนี้เงินต้นที่กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้เงินจากการระบายข้าว จำนวน 5,460 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ไถ่ถอนพันธบัตรที่กู้มาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนด จำนวน 2,000 ล้านบาท
ด้านหน่วยงานของรัฐมียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 847.46 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการกู้เงินของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อดำเนินโครงการการให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยในฤดูผลิต ปี 2557/2558 จำนวน 872.31 ล้านบาท
สำหรับหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ส.ค.58 เท่ากับ 5,736,644.08 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ในประเทศ 5,384,061.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.85 และหนี้ต่างประเทศ 352,582.88 ล้านบาท (ประมาณ 10,052.92 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 6.15 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และหากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 155,838.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ 31 ส.ค.58) หนี้ต่างประเทศ จะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.45 ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ โดยหนี้สาธารณะ แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาวถึง 5,542,534.01 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.62 และมีหนี้ระยะสั้น 194,110.07 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.38 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง