ธอส.เตรียมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ขานรับนโยบายรัฐบาลจัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ให้สามารถกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในวงเงินที่สูงขึ้นด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน ลั่นผู้ที่ยื่นก่อนจะได้สิทธิ์ก่อน พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ห่วงหนี้เสียเพิ่ม
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของภาครัฐ และเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ พร้อมสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อย และปานกลางมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ในวงเงินกู้ที่สูงขึ้นเพียงพอต่อการซื้อบ้าน ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของธนาคาร
ทั้งนี้ ธอส. จึงได้เตรียมวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยให้กู้สำหรับผู้ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน หรือวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ธนาคารจะใช้เงื่อนไขผ่อนปรนการพิจารณาสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (DSR) เพิ่มเป็นร้อยละ 40-50 ของรายได้สุทธิต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยปีแรกร้อยละ 3.50 ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ต่อปี ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญา
กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-ร้อยละ 1.00 ต่อปี และกรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR-ร้อยละ 0.75 ต่อปี วัตถุประสงค์ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด และเพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี
"ธนาคารจะเปิดรับทั้งบ้านมือสองและบ้านหลังแรก แต่ให้สินเชื่อซื้อบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท ด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขพิจารณาสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้เพิ่มเป็นร้อยละ 40-50 ของรายได้สุทธิต่อเดือนจากเดิมร้อยละ 33 จึงทำให้ผู้มีรายได้สุทธิต่อเดือนจำนวนไม่มากได้รับสินเชื่อมากขึ้นจากเดิม โดยธนาคารยังคงพิจารณาเลือกจากกลุ่มลูกค้าในเครดิตบูโร รวมทั้งเสนอขอกู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดและเพื่อปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคารผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี"
นางอังคณา มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่มีวินัยการเงินดีให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้ และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 โดยผู้ที่ยื่นก่อนจะได้สิทธิก่อน หากมีประชาชนสนใจจำนวนมากอาจเสนอบอร์ด ธอส. พิจารณาวงเงินสินเชื่อเพิ่มจาก 10,000 ล้านบาท คาดว่ามีผู้สนใจร่วมโครงการดังกล่าวประมาณ 10,000 ราย