ASTVผู้จัดการรายวัน - มั่นใจโค้งสุดท้ายหุ้นใหม่ IPO ปี 2558 ทุกบริษัทตบเท้าเข้าเทรดตามกำหนด แม้ตลาดผันผวน แต่ทุกธุรกิจต้องการระดมทุนขยายกิจการ อีกทั้งที่ผ่านมานักลงทุนตอบรับปิดยืนเหนือราคาจอง บรรลุเป้าตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจทุกบริษัททำการบ้านมาเป็นอย่างดี แม้ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2558 การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังผันผวน แต่ภาคเอกชนยังเดินหน้าเพิ่มศักยภาพธุรกิจ โดยเลือกที่จะใช้ตลาดหุ้นเป็นอีกช่องทางในการระดมทุนอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ในช่วง 3 เดือนจากนี้ และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559 จะมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทจดทะเบียนเข้าซื้อ-ขายหลายหลักทรัพย์ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และในตลาด mai แม้ขณะนี้ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดทุนไทยค่อข้างผันผวน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมาๆ ซึ่งส่วนมากหุ้นใหม่เหล่านี้จะได้รับการตอบรับ และผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวม 21 บริษัท แบ่งเป็น Set 10 บริษัท mai 9 บริษัท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 9 บริษัท
โดยบริษัทที่กำหนดแผนการเข้าระดมทุนซื้อขายแล้วได้แก่ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ที่จะประเดิมเข้าซื้อขายในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ถัดมา บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) จะเข้าซื้อขายในวันที่ 8 ต.ค. จากนั้น บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) พร้อมเข้าซื้อขายวันที่ 13 ต.ค.นั้น ต่อมา วันที่ 21 ต.ค. โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) จะเป็นรายต่อไปที่เข้าเทรด และปิดท้ายด้วย บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ที่จะเข้าซื้อขายในไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะเริ่มบริษัทอื่นๆ เตรียมเข้าระดมทุนต่อจากช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงการเข้าระดมทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 นั่นเอง
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงแผนการเข้าซื้อขายบนกระดานเทรดของ SCI ว่า หากไม่มีสถานการณ์ที่สร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นไทยจนทำให้การเข้าซื้อขายไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย SCI พร้อมที่จะเข้าซื้อขายหุ้นตามกำหนดการเดิมที่กำหนดไว้ เพราะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี และที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับต่อหุ้นที่ซื้อขายในช่วงเวลานี้
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) กล่าวว่า ในไตรมาส 4/58 น่าจะมีบริษัทที่พร้อมเข้าจดทะเบียนใหม่ที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นสามัญใหม่ หรือ IPO ทั้งใน SET และ mai ประมาณ 5-10 บริษัท เชื่อว่าทั้งปี 2558 น่าจะมีบริษัทเข้าซื้อขายมากกว่า 25 บริษัทที่ ตลท.ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าภาพรวมความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่หวือหวา แต่ตลาดหุ้นยังเป็นแหล่งระดมทุนที่น่าสนใจเป็นอันดับ 1 ของทุกธุรกิจ
ขณะที่การระดมทุนในปี 2559 ส่วนตัวประเมินว่าน่าจะยังคงมีบริษัทเข้าระดมทุนประมาณ 30 บริษัท โดยในส่วนของ APM เตรียมเตรียมยื่นแบบแสดงข้อมูลการเสนอขายหุ้น (Filing) ภายในไตรมาส 4/58 ประมาณ 2-3 บริษัท และจะทยอยยื่น Filing ในไตรมาส 1/59 อีก 3-5 บริษัท
“บริษัทที่เขาตั้งใจที่จะเข้ามาระดมทุนเขามีการเตรียมความพร้อมมา 2-3 ปี คงไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ ประกอบกับมี “พ.ร.บ.การให้บริการสาธารณชน” เข้ามากำหนดขั้นตอนตั้งแต่คุยกับ ก.ล.ต. การเตรียมความพร้อมด้านการเงิน เตรียมพร้อมด้านการบัญชี รวมถึงการควบคุมภาพใน ดังนั้น เมื่อพร้อมแล้วก็ต้องหากำหนดกรอบเวลาเข้าซื้อขายที่ไม่มีอุปสรรคมากนัก” นายสมภพ กล่าว
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมองว่ายังคงแข็งแกร่ง แม้ได้รับผลข้างเคียงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา โดยเฉพาะแต่ละภาคส่วนอุตสาหกรรมไทยยังคงเข้มแข็งมาก ดังนั้น บริษัทเอกชนทั้งขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่น่าจะยังคงให้ความสำคัญต่อการระดมทุนผ่านตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง
“ผมมองว่าภาคอุตสาหกรรมไทยยังแข็งแกร่งมากแม้ว่าจะเติบโตไม่หวือหวา แต่ก็เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ผลประกอบการที่ดีได้ ทำให้นักลงทุนยังคงสนใจทำกำไร รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากตลาดทุน ดังนั้น การเข้าระดมทุนจึงยังคงมีความสำคัญต่อทุกฝ่าย” นายสมภพ กล่าว
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย ระบุการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถระดมทุนก้อนใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น คาดว่าบริษัทที่จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในไตรมาส 4/58 นั้นจะไม่เลื่อนกำหนดการนำหุ้นเข้าซื้อ-ขายออกไป ประกอบกับปีนี้ทั้งปีราคาหุ้น IPO เปิดเทรดกันได้อย่างสวยงามราคาพุ่งประมาณ 100% ทุกตัวโดยจนถึงขณะนี้มีบริษัทที่จดทะเบียนเข้า SET แล้วทั้งสิ้น 16 บริษัท และจดทะเบียนเข้า mai ทั้งสิ้น 8 บริษัท
“มองว่าการเข้าหุ้นเข้าซื้อขายเป็นช่องทางระดมทุนที่ดีที่สุด ดังนั้น บริษัทที่มีแผนระดมทุนอยู่แล้วคงไม่เลื่อนออกไป อีกทั้งนักลงทุนก็รอเข้าลงทุนเพราะมองว่ายังเป็นโอกาสทำกำไร” นายประกิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai จะสามารถระดุทุนได้ตามประมาณการว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ 30 บริษัท มูลค่ารวม 2.5 แสนล้านบาท แต่ บล.กสิกรไทย ยังคงเป้าหมายดัชนี ณ สิ้นปี 2558 ไว้ที่ 1,400-1,460 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ในช่วง 3 เดือนจากนี้ และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559 จะมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทจดทะเบียนเข้าซื้อ-ขายหลายหลักทรัพย์ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และในตลาด mai แม้ขณะนี้ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดทุนไทยค่อข้างผันผวน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมาๆ ซึ่งส่วนมากหุ้นใหม่เหล่านี้จะได้รับการตอบรับ และผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวม 21 บริษัท แบ่งเป็น Set 10 บริษัท mai 9 บริษัท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 9 บริษัท
โดยบริษัทที่กำหนดแผนการเข้าระดมทุนซื้อขายแล้วได้แก่ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ที่จะประเดิมเข้าซื้อขายในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ถัดมา บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) จะเข้าซื้อขายในวันที่ 8 ต.ค. จากนั้น บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) พร้อมเข้าซื้อขายวันที่ 13 ต.ค.นั้น ต่อมา วันที่ 21 ต.ค. โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) จะเป็นรายต่อไปที่เข้าเทรด และปิดท้ายด้วย บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ที่จะเข้าซื้อขายในไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะเริ่มบริษัทอื่นๆ เตรียมเข้าระดมทุนต่อจากช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงการเข้าระดมทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 นั่นเอง
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงแผนการเข้าซื้อขายบนกระดานเทรดของ SCI ว่า หากไม่มีสถานการณ์ที่สร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นไทยจนทำให้การเข้าซื้อขายไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย SCI พร้อมที่จะเข้าซื้อขายหุ้นตามกำหนดการเดิมที่กำหนดไว้ เพราะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี และที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับต่อหุ้นที่ซื้อขายในช่วงเวลานี้
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) กล่าวว่า ในไตรมาส 4/58 น่าจะมีบริษัทที่พร้อมเข้าจดทะเบียนใหม่ที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นสามัญใหม่ หรือ IPO ทั้งใน SET และ mai ประมาณ 5-10 บริษัท เชื่อว่าทั้งปี 2558 น่าจะมีบริษัทเข้าซื้อขายมากกว่า 25 บริษัทที่ ตลท.ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าภาพรวมความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่หวือหวา แต่ตลาดหุ้นยังเป็นแหล่งระดมทุนที่น่าสนใจเป็นอันดับ 1 ของทุกธุรกิจ
ขณะที่การระดมทุนในปี 2559 ส่วนตัวประเมินว่าน่าจะยังคงมีบริษัทเข้าระดมทุนประมาณ 30 บริษัท โดยในส่วนของ APM เตรียมเตรียมยื่นแบบแสดงข้อมูลการเสนอขายหุ้น (Filing) ภายในไตรมาส 4/58 ประมาณ 2-3 บริษัท และจะทยอยยื่น Filing ในไตรมาส 1/59 อีก 3-5 บริษัท
“บริษัทที่เขาตั้งใจที่จะเข้ามาระดมทุนเขามีการเตรียมความพร้อมมา 2-3 ปี คงไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ ประกอบกับมี “พ.ร.บ.การให้บริการสาธารณชน” เข้ามากำหนดขั้นตอนตั้งแต่คุยกับ ก.ล.ต. การเตรียมความพร้อมด้านการเงิน เตรียมพร้อมด้านการบัญชี รวมถึงการควบคุมภาพใน ดังนั้น เมื่อพร้อมแล้วก็ต้องหากำหนดกรอบเวลาเข้าซื้อขายที่ไม่มีอุปสรรคมากนัก” นายสมภพ กล่าว
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมองว่ายังคงแข็งแกร่ง แม้ได้รับผลข้างเคียงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา โดยเฉพาะแต่ละภาคส่วนอุตสาหกรรมไทยยังคงเข้มแข็งมาก ดังนั้น บริษัทเอกชนทั้งขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่น่าจะยังคงให้ความสำคัญต่อการระดมทุนผ่านตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง
“ผมมองว่าภาคอุตสาหกรรมไทยยังแข็งแกร่งมากแม้ว่าจะเติบโตไม่หวือหวา แต่ก็เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ผลประกอบการที่ดีได้ ทำให้นักลงทุนยังคงสนใจทำกำไร รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากตลาดทุน ดังนั้น การเข้าระดมทุนจึงยังคงมีความสำคัญต่อทุกฝ่าย” นายสมภพ กล่าว
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย ระบุการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถระดมทุนก้อนใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น คาดว่าบริษัทที่จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในไตรมาส 4/58 นั้นจะไม่เลื่อนกำหนดการนำหุ้นเข้าซื้อ-ขายออกไป ประกอบกับปีนี้ทั้งปีราคาหุ้น IPO เปิดเทรดกันได้อย่างสวยงามราคาพุ่งประมาณ 100% ทุกตัวโดยจนถึงขณะนี้มีบริษัทที่จดทะเบียนเข้า SET แล้วทั้งสิ้น 16 บริษัท และจดทะเบียนเข้า mai ทั้งสิ้น 8 บริษัท
“มองว่าการเข้าหุ้นเข้าซื้อขายเป็นช่องทางระดมทุนที่ดีที่สุด ดังนั้น บริษัทที่มีแผนระดมทุนอยู่แล้วคงไม่เลื่อนออกไป อีกทั้งนักลงทุนก็รอเข้าลงทุนเพราะมองว่ายังเป็นโอกาสทำกำไร” นายประกิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai จะสามารถระดุทุนได้ตามประมาณการว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ 30 บริษัท มูลค่ารวม 2.5 แสนล้านบาท แต่ บล.กสิกรไทย ยังคงเป้าหมายดัชนี ณ สิ้นปี 2558 ไว้ที่ 1,400-1,460 จุด
