บล.เออีซี ชี้ดัชนีหุ้นไทยเดือน ต.ค.จะกลับมาดีกว่าภูมิภาค เนื่องจากตลาดเทรดกันที่ค่าพี/อี ระดับ 13.3 เท่า ซึ่งเป็นแนวรับทางพื้นฐานที่สำคัญในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา แนะจับตาเม็ดเงินสถาบันในประเทศ 2-4 หมื่นล้านบาท เตรียมเข้าลงทุน ขณะที่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศจะเริ่มมีการเปิดสถานะการลงทุนสำหรับผลการดำเนินงานปี 59 ในช่วงเดือน ต.ค.นี้ แนะสะสมหุ้นเข้าพอร์ตที่ระดับ 1,320 จุด เพิ่มน้ำหนัก 5 กลุ่มหลัก
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เออีซี หรือ AECS กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือน ต.ค. โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค (Outperform) เนื่องจากตลาดหุ้นไทยที่ซื้อขายระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ 13.3 เท่า เป็นแนวรับทางพื้นฐานที่สำคัญในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีฯ มาจากการลงทุนโครงการของภาครัฐ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กระตุ้นการท่องเที่ยว และการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่จะเริ่มทยอยออกมา โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการทางหลวง รวมถึงการประมูล 4G ในเดือน พ.ย.2558 นี้
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4 นี้ โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุนสถาบันในประเทศ จากเงินลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ประมาณ 2-4 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศจะเริ่มมีการเปิดสถานะการลงทุนสำหรับผลการดำเนินงานปี 2559 ในช่วงเดือน ต.ค.นี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในเดือน ต.ค.นี้ แนะวางแผนรอซื้อหุ้นที่ดัชนีประมาณ 1,320 จุด สะสมหุ้นถูกก่อนปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี โดยอุตสาหกรรมที่ บล.เออีซี เพิ่มน้ำหนักลงทุน 5 กลุ่ม ได้แก่ ก่อสร้าง สื่อสาร วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ
