บล.เออีซี ปักธงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4 ปี 58 มีโอกาสเด้ง 100 จุด ลุ้นทะยานแตะ 1,480 จุด หลังนักลงทุนคลายความกังวลเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย-แรงซื้อกองทุน LTF ในช่วงปลายปีหนุน-รัฐบาลเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงดัชนีหลุด 1,350 จุด เป็นจังหวะน่าชอป แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มก่อสร้าง สื่อสาร วัสดุก่อสร้างค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/58 ยังคงมีความผันผวนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม หากดัชนีปรับตัวลงไปที่ระดับ 1,350 จุด มองว่าเป็นโอกาสของการเข้าลงทุน เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจะมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไหลเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังคาดว่านักลงทุนน่าจะคลายกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความคืบหน้าการลงทุนของภาครัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานตัวในแดนบวก โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/58 มีโอกาสขึ้นทดสอบระดับ 1,480 จุด ได้
“แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4/58 มีโอกาสที่จะฟื้นตัวในระดับ 100 จุด หากดัชนีปรับตัวลดลงมาที่บริเวณ 1,350+/- ถือเป็นจุดที่น่าสนใจเข้าลงทุน”
สำหรับปัจจัยบวกที่จะผลักดันตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐใน 3 ประเด็น ได้แก่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (นโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และการยืดชำระหนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ SME) และแรงซื้อกลับของนักลงทุนสถาบันในช่วงไตรมาส 4/58 รวมทั้งการชะลอตัวการขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate ทั้งในเรื่องของระยะเวลา และระดับของการขึ้น การฟื้นตัวของตลาดค่าเงินโลกหลัง US Dollar ผ่านจุดที่แข็งค่าสุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 4/58 บล.เออีซี แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุน 5 กลุ่ม ได้แก่ ก่อสร้าง สื่อสาร วัสดุก่อสร้าง (Small Cap) ค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ
ขณะเดียวกัน ได้ให้น้ำหนักต่ำกว่าตลาดในกลุ่มอาหาร เกษตร และธนาคาร นอกจากนี้ ปรับกลุ่มบันเทิง และสื่อสิ่งพิมพ์เพิ่มจาก Underweight เป็น Neutral เนื่องจากราคาหุ้นมีการสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว
“หุ้น Big Cap ที่เราเลือกเป็น AECS Basket Portfolio ได้แก่ ADVANC, CPALL, KTC, STEC, TPIPL และเลือกหุ้น 5 บริษัทที่เข้าพอร์ตการลงทุนได้แก่ WORK, VNG, KAMART, FORTH, PYLON” นายเกรียงไกร กล่าว