ส.อาคารชุดไทย เสนอรัฐขยายเพดานปล่อยสินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มจาก 1.5 ล้านบาท เป็น 3 ล้านบาท หนุนสัดส่วนกลุ่มลูกค้าระดับกลางล่างขึ้น 30% เพิ่มอัตราการผ่อนชำระต่อรายได้สุทธิจาก 30% ปรับเพิ่มเป็น 40-50% ประเมินมาตรการรัฐไม่ยาว คาดไม่เกิน 1 ปี ล่าสุด เตรียมจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 กระตุ้นยอดขายปลายปี
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐแสดงถึงความชัดเจนมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้อยากให้คณะรัฐมนตรีนำเรื่องมาตรการดังกล่าวเข้าที่ประชุม โดยมองถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีการจัดงานเพื่อกระตุ้นธุรกิจโดยรวมอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังอยากให้ภาครัฐขยายสินเชื่อเพิ่อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้ปานกลางผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส.
โดยเฉพาะเรื่องอัตราการผ่อนชำระต่อรายได้สุทธิ ซึ่งจากเดิมอยู่ที่ 30% อยากให้ปรับเพิ่มเป็น 40-50% เพื่อให้ผู้มีรายได้ปานกลางเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาระการผ่อนชำระต่อเดือนมีการขยายเวลาออกไป เนื่องจากถ้าเวลาเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ในแต่ละเดือนจะทำให้ภาระการผ่อนต่อเดือนลดลง นอกจากนี้ อยากให้ภาครัฐช่วยผลักดันเพิ่มเพดานอัตราการปล่อยสินเชื่อ ปัจจุบัน ธอส.ปล่อนสินเชื่อที่ 1.5 ล้านบาท อยากให้เพิ่มเป็น 3 ล้านบาท เนื่องจากจะสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
โดยมีสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าระดับ 1.5 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% ของตลาดรวม ซึ่งถ้ามีการปรับเพิ่มเพดานให้แก่กลุ่มลูกค้าระดับราคา 3 ล้านบาท จะให้ตลาดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้ถึง 30% ซึ่งอยากให้ ธอส.ช่วยกระตุ้นตลาดกลางล่างให้มากขึ้นด้วย
สำหรับในปีนี้จะมีการส่งมอบคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากที่สุด ทั้งปีมูลค่าประมาณ 190,000 ล้านบาท โดยไตรมาสสุดท้ายจะมีการส่งมอบที่ 80,000 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีแรกมีการส่งมอบที่ 60,000-70,000 ล้านบาท เติบโต 5-10% ครึ่งปีหลังประมาณ 120,000 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่ทำให้การส่งมอบช้าเนื่องจากมีปัญหาทางการเมือง ทำให้การก่อสร้างชะลอตัวไป
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 500,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 300,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้เ ชื่อว่าการที่ภาครัฐออกมาตรการช่วบเหลือจะเป็นการในส่วนของผู้บริโภคเป็นหลัก และคาดว่าจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งปีเติบโตได้ถึง 13%
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่ภาครัฐกำลังจะประกาศไม่สามารถตอบได้ว่าจะครอบคลุมได้นานแค่ไหน แต่เชื่อว่าที่ผ่านมาจะมีช่วงระยะเวลาจำกัด คาดว่าไม่เกิน 1 ปี โดยเจตนาของมาตรการเชื่อว่าต้องการให้เห็นผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะทันที่ ไม่ได้ทิ้งไว้ให้เกิดผลในหลายปี ทั้งนี้ ผู้ซื้อควรซื้อในช่วงโอกาสนี้
ด้านนางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 กล่าวว่า ทาง 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร จัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 โดยงานครั้งนี้กำหนดจัดขึ้น 8-11 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีนี้ สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้ใช้งบในการโฆษณาประสัมพันธ์กว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานประมาณ 200 ราย ซึ่งนำโครงการเข้าร่วมกว่า 600 โครงการ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานที่ 100,000 คน และมียอดขายตลอดงานมากกว่า 3,000 ล้านบาท