โรงพยาบาลลาดพร้าว เล็งเสนอขายหุ้นไอพีโอ 200 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง และอนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO แล้ว หวังระดมทุนใช้สร้าง รพ.ใหม่ และขยายพื้นที่ศูนย์การแพทย์ประกันสังคม สถานพักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ เพื่อขยายฐานลูกค้า และสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นยั่งยืนในอนาคต
น.ส.พัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) (LPH) ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) และอนุญาตให้เสนอขายหุ้น LPH เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจการแพทย์ได้ภายในปี2558
สำหรับ LPH ก่อตั้งโดยกลุ่มแพทย์ และนักธุรกิจชั้นนำมากว่า 22 ปี เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ขนาด 180 เตียง โดยให้บริการรักษาโรคทั่วไป และศูนย์บริการแพทย์เฉพาะทาง สามารถให้บริการทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยฉุกเฉิน ภายใต้แบรนด์ “โรงพยาบาลลาดพร้าว” โดยมีศักยภาพการให้บริการผู้ป่วยนอกประมาณ 3,400 คนต่อวัน และมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการ ทั้งศูนย์ประกันสังคม ศูนย์พักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ และสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการ และขยายฐานลูกค้าในพื้นที่และเขตใกล้เคียงตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชากรในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ โดยที่ผ่านมา โรงพยาบาลฯ มีลูกค้าที่หลากหลายกระจาย
ทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มประกันคู่สัญญา และกลุ่มลูกค้าประกันสังคม นอกจากนี้ บริษัทฯ มีบริษัทย่อย คือ AMARC ดำเนินธุรกิจบริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบและวิจัยด้านอาหาร ผลิตผลการเกษตรและยา ซึ่งมีมาตราฐานเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาสูง จึงเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งในระดับเดียวกันน้อยราย และมีศักยภาพการเติบโตสูง
ปัจจุบัน LPH มีทุนจดทะเบียน 375 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 275 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยปัจจุบันมีกลุ่ม บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด กลุ่มตัณฑเทอดธรรม กลุ่มเศวตวิลาส บริษัท ยูเนี่ยน แคปปิตอล จำกัด และนางวิมลทิพย์ พงศธร ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 36.54 ร้อยละ 6.71 ร้อยละ 6.43 ร้อยละ 4.62 และร้อยละ 4.20 ตามลำดับ ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวลดลงเหลือร้อยละ 26.80 ร้อยละ 5.05 ร้อยละ 4.85 ร้อยละ 3.39 และร้อยละ 3.08 ตามลำดับ (บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด มีกลุ่มผู้ถือหุ้น ได้แก่ กลุ่มฉันทนาวานิช กลุ่มตันฑเทอดธรรม กลุ่มเศวตวิลาศ กลุ่มโล่ห์เลขา และกลุ่มวิญญูประดิษฐ์) โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปีนี้
“LPH เป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตโดดเด่นสดใส และคาดว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลฯ ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำจากความผันผวนของเศรษฐกิจการเมือง และที่ผ่านมา บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีกำไรต่อเนื่องตั้งแต่เปิดบริการมากว่า 22 ปี และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญบริษัทฯ มีแผนการลงทุนในโครงการอนาคตชัดเจน ทั้งโครงการขยายศูนย์บริการเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ศูนย์ประกันสังคม และโครงการสร้างโรงพยาลแห่งใหม่ ซึ่งจะมีเตียงให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 180 เตียง อีกทั้งยังมีบริษัทฯ ย่อยที่มีโอกาสในการเติบโตสูง ด้วยธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในปัจจุบัน บวกกับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ ได้ในในระยะยาว” น.ส.พัชพร กล่าว
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยธุรกิจของบริษัทฯเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากการดำเนินงานมายาวนานกว่า 22 ปี ด้วยบุคลากรทั้งทีมแพทย์ และผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความทันสมัย รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาศูนย์การแพทย์เฉพาะทางให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) โดยเริ่มจาก 5 ศูนย์ทางการแพทย์ คือ ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์ตา ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ และศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์ผิวหนังและความงาม เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานกลุ่มผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลฯ ที่จะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต ประกอบกับเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อย ด้วยกลุ่มผู้ใช้บริการที่หลากหลาย ทั้งในกลุ่มที่ชำระเงินเอง กลุ่มบริษัทคู่สัญญา บริษัทประกันคู่สัญญา รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการประกันสังคม ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย และมั่นคง อีกทั้งบริษัทฯ มีเป้าหมายในด้านการตลาดที่จะขยายฐานผู้ใช้บริการในกลุ่มสมาชิกของโรงพยาบาลกลุ่มลูกค้าองค์กร และบริษัทประกันคู่สัญญา และกลุ่มข้าราชการ รวมทั้งมีเป้าหมายในการรักษาฐานในส่วนของผู้ใช้บริการตามสิทธิประกันสังคม ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทฯ โดยในปี 2557 มีผู้ประกันตนกับโรงพยาบาลฯ จำนวนเฉลี่ย 148,910 คน ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนเต็มโควตา คือ 149,500 คน และบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาจำนวนผู้ประกันตนให้อยู่ระดับใกล้เคียงกับจำนวนโควต้าที่โรงพยาบาลได้รับอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนในการลงทุนโครงการในอนาคต ซึ่งจะสามาถสร้างการเติบโตของรายได้ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวจากเม็ดเงินที่ได้รับจากการระดมทุน IPO ในครั้งนี้ โดยบริษัทมีแผนในการก่อสร้างโครงการในอนาคต ได้แก่ 1) อาคารศูนย์การแพทย์ประกันสังคม ซึ่งคาดว่าทำให้มีจำนวนโควตาผู้ประกันตนประกันสังคมได้เพิ่มเติม ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ในกลุ่มผู้ใช้ประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นรายได้ที่มั่นคง และสม่ำเสมอของบริษัทฯ ตามจำนวนผู้ประกันตนที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2560
2) สถานพักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้บริการกลุ่มผู้สูงอายุทั้งในด้านการดูแล บำบัด ฟื้นฟู ซึ่งเป็นการให้บริการต่อเนื่องจากการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2561
และ 3) โครงการโรงพยาบาลลาดพร้าวลำลูกกา โดยจะเป็นโรงพยาบาลแห่งใหม่ เฟสแรก ขนาด 180 เตียง ซึ่งจะสร้างในบริเวณอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็น รพ.ที่ทันสมัยแห่งแรกในแถบพื้นที่นั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว มีโครงการบ้านจัดสรรที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก รวมถึงการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวของสถานประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเดินทางยังสามารถทำได้โดยสะดวก และจะทำให้บริษัทฯ ดำเนินงานในลักษณะเป็นโรงพยาบาลที่มีเครือข่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจากการใช้ทรัพยากรร่วมของกลุ่ม โดยการลงทุนในส่วนแรกจะเริ่มดำเนินการโรงพยาบาลขนาด 180 เตียง คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2562 รวมถึงบริษัทฯ มีเป้าหมายในการที่จะหาพันธมิตรเพื่อร่วมดำเนินธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลแห่งอื่น หรือการเข้าลงทุนในกิจการโรงพยาบาลเอกชนแห่งอื่น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ ซึ่งจากแผนเติบโตดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ มีเป้าหมายในการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ทั้งนี้ เงินระดมทุนส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย
“ปี 2558 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ LPH ในการก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าบริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2557 ที่มีรายได้ประมาณ 1,136.57 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะมีรายได้อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ร้อยละ 15 โดยบริษัทฯ จากธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งที่สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ประกอบกับแผนการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพที่จะมาสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ดร.อังกูร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทฯมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555-2557 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 917.43, 1,063.07 และ 1,136.57 ล้านบาทตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 11.30 และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2555-2557 เท่ากับ 79.5 ล้านบาท 108.43 ล้านบาท และ 99.88 ล้านบาทตามลำดับ ข้อมูลบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) LPH ประกอบธุรกิจให้บริการทางการแพทย์โรงพยาบาลเอกชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2533 โดยปัจจุบันบริษัทฯ และบริษัทย่อยแบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย
1.ธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ โดยเปิดให้บริการมานานกว่า 22 ปี ตั้งแต่ปี 2536 โดยให้บริการรักษาโรคทั่วไป และการให้บริการทางการแพทย์ มีทั้งในส่วนของผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยกลุ่มผู้ในบริการแบ่งเป็น กลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไป กลุ่มคู่สัญญา และกลุ่มผู้ใช้บริการตามสิทธิโครงการประกันสังคม ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัทโรงพยาบาลลาดพร้าว 2 จำกัด หรือ LP2 ใช้ดำเนินโรงพยาบาลแห่งใหม่ คือ โรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา
2.ธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบ และวิจัยด้านอาหาร ผลิตผลทางการเกษตรและยา ดำเนินการโดยบริษัทย่อย บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเชีย หรือ AMARC ซึ่งโรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 97.14 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ประกอบธุรกิจการตรวจวิเคราะห์ วิจัย ภายในห้องปฏิบัติการ สำหรับวิเคราะห์ อาหาร สินค้าการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และการวิเคราะห์ทางเภสัชศาสตร์ พยาธิวิทยา ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักทางการรักษา ซึ่งใช้บริการภายในธุรกิจโรงพยาบาล และให้บริการภายนอกโดย AMARC เป็นที่ยอมรับ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ด้วยห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล การบริการที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน
3.ธุรกิจสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์และการพัฒนาธุรกิจ โดยดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัทศูนย์จัดการบริหารธุรกิจแห่งเอเชีย จำกัด หรือ ABMC โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งเป็นธุรกิจสนับสนุนงานของด้านเวชสถิติ งานด้านกฎหมาย รวมถึงงานสนับสนุนงานด้านการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งจะใช้รองรับการขยายตัวของธุรกิจของกลุ่มในอนาคต