หุ้นไทยปิดร่วง 4.57 จุด อยู่ที่ 1,377.15 จุด โบรกฯ คาดหุ้นพรุ่งนี้ร่วงต่อ จับตาผลการประชุมเฟด แนะชะลอลงทุน คาดแกว่ง 1,365-1,390 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (14 ก.ย.) ปิดการซื้อขายที่ 1,377.15 จุด ลดลง 4.57 จุด (0.33%) มูลค่าการซื้อขายรวม 32,606.09 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,385.12 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,371.96 จุด
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยมองแนวโน้มว่ามีโอกาสน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนนี้
บลจ.กสิกรไทย ประเมินผลกระทบต่อตลาดในกรณีที่เฟดยังไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ว่า ตลาดไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากตลาดได้ปรับตัวไปตามการคาดการณ์ส่วนใหญ่แล้ว ทั้งนี้ ในภาพรวมอาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น แต่ถ้าหากในกรณีที่เฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ อาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวนสูงขึ้น
นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับมุมมองการลงทุนของ บลจ.กสิกรไทย ในภาวะที่ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนนี้ มองว่า ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ มาตรการของรัฐบาลจีนที่ยังมีความไม่แน่ชัด จะส่งผลให้ตลาดมีการปรับเปลี่ยนมุมมอง และการคาดการณ์ต่างๆ อยู่ตลอด และจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังปกคลุมไปด้วยความผันผวน และส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ต่างๆ ได้อีก
โดยมองว่า ดัชนีหุ้นไทยสามารถปรับตัวลงต่ำสุดที่กรอบระดับ 1,250-1,280 จุด และสามารถปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,400 -1,450 จุด จนถึงสิ้นปี 2558 ซึ่งปัจจัยส่งเสริมหลักจะมาจากการตอบรับในเชิงบวกต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 สามารถเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนระยะสั้นที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก แนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นไทย ส่วนผู้ลงทุนระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป อาจใช้จังหวะที่หุ้นปรับฐานลง สามารถทยอยเข้าซื้อหุ้นไทยเพิ่มเติมได้