เผยนักลงทุนเทขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนการประชุมเฟด

นักวิเคราะห์ ชี้ หุ้นไทยร่วง 14 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ ซึ่งกังวลการขึ้น ดบ. ของเฟด จึงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน ส่วนหุ้นไทยปรับลงมาที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด ทำให้มีแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ซึ่งราคาตอบรับมาตรการกระตุ้น ศก. ไปเยอะแล้ว ส่วนกลุ่มอสังหาฯ มีการเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่มีอะไรออกมา จึงถูกขายทำกำไร แนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดหุ้นผันผวนก่อนประชุมเฟด

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ายังอยู่ในทิศทางบวกได้ แต่ในช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ได้ปรับตัวลง เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ติดลบ ทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ยังไม่ปิดตลาดต่างก็ปรับตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยต่างขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมา และไปรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,400 จุด ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาก่อน โดยมีแรงขายที่ออกมาจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกลุ่มแบงก์ราคาได้ขยับขึ้นไปตอบรับเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพอสมควรแล้ว ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ก็มีการเล่นเก็งกำไรในความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ออกมา แต่สุดท้ายมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรออกมา ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายทำกำไรออกมาก่อน

โดยวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,381.72 จุด ลดลง 14.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.03% มูลค่าการซื้อขาย 42,522.54 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดจะแกว่งผันผวนในช่วงก่อนผลประชุมเฟดจะออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งเรื่องเรื่องของสหรัฐฯ เวลานี้ถือเป็นปัจจัยหลักของตลาดฯ นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินก็มีนัยในแต่ละตลาดจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,400 จุด