หุ้นไทยปิดเช้าลด 0.06 จุด ภาพรวมตลาดทรงตัว ดัชนีแกว่งในกรอบแคบเนื่องจากได้ซึมซับข่าวจีน และกรีซไปในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนประเด็นผลประกอบการกลุ่มแบงก์คงต้องดูสัปดาห์หน้าที่จะมีการประกาศออกมาจะเป็นไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้หรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ก.ค.) ดัชนีปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,470.19 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.00% มูลค่าการซื้อขาย 17,580.97 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบ และเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ที่โดยรวมติดลบจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้เห็นว่า ดัชนีฯ มีการรีบาวนด์ขึ้นมาได้บ้าง แม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม ซึ่งเป็นลักษณะของการเก็งกำไร
ทั้งนี้ ตลาดฯ ยังเฝ้าจับตาเรื่องของกรีซ แม้ว่าตลาดฯ จะซึมซับไปแล้ว แต่ถ้าการเจรจาของกรีซกับเจ้าหนี้สามารถลงเอยกันได้ก็จะทำให้ตลาดรีบาวนด์ได้ ส่วนเรื่องของจีนที่ออกมาในเชิงลบ จาก impact ที่จีนมีการเพิ่มเกณฑ์การวางหลักประกันมาร์จิน (margin requirement) แต่ในช่วงหลังจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตในอัตราที่ช้าลง
ดังนั้น ภาพของจีนเป็นอะไรที่ยังต้องรอดูอยู่ อย่างไรก็ดี ให้วันศุกร์นี้ (10 ก.ค.) ให้ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และก็ต้องรอดูว่าจะมีการพูดเรื่องของดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่า
สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะเห็นได้ว่า ตลาดฯ ได้ตอบรับไปแล้ว และสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มทยอยประกาศงบฯ กลุ่มแบงก์ออกมา ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเป็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ดัชนีฯ คงจะแกว่งตัวแต่ก็มีโอกาสที่จะรีบาวนด์ได้บ้าง ซึ่งควรจะจับตาไปที่ตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร เพราะอาจจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่มาจากเรื่องของกรีซก็ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ก.ค.) ดัชนีปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,470.19 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.00% มูลค่าการซื้อขาย 17,580.97 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบ และเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ที่โดยรวมติดลบจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้เห็นว่า ดัชนีฯ มีการรีบาวนด์ขึ้นมาได้บ้าง แม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม ซึ่งเป็นลักษณะของการเก็งกำไร
ทั้งนี้ ตลาดฯ ยังเฝ้าจับตาเรื่องของกรีซ แม้ว่าตลาดฯ จะซึมซับไปแล้ว แต่ถ้าการเจรจาของกรีซกับเจ้าหนี้สามารถลงเอยกันได้ก็จะทำให้ตลาดรีบาวนด์ได้ ส่วนเรื่องของจีนที่ออกมาในเชิงลบ จาก impact ที่จีนมีการเพิ่มเกณฑ์การวางหลักประกันมาร์จิน (margin requirement) แต่ในช่วงหลังจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตในอัตราที่ช้าลง
ดังนั้น ภาพของจีนเป็นอะไรที่ยังต้องรอดูอยู่ อย่างไรก็ดี ให้วันศุกร์นี้ (10 ก.ค.) ให้ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และก็ต้องรอดูว่าจะมีการพูดเรื่องของดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่า
สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะเห็นได้ว่า ตลาดฯ ได้ตอบรับไปแล้ว และสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มทยอยประกาศงบฯ กลุ่มแบงก์ออกมา ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเป็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ดัชนีฯ คงจะแกว่งตัวแต่ก็มีโอกาสที่จะรีบาวนด์ได้บ้าง ซึ่งควรจะจับตาไปที่ตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร เพราะอาจจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่มาจากเรื่องของกรีซก็ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด
