โรงแรมเซ็นทรัลฯ ย้ำผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 14% เชื่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ส่งผลกระทบแค่ในระยะสั้น ยอมรับหลังเกิดเหตุตัวเลขยอดจองห้องพักลดเพียง 1% และขณะนี้ยอดการจองที่พักของ CENTEL ก็เริ่มจะกลับมาบ้างแล้ว ตัวเลขล่าสุดยอดการจองห้องพักปรับขึ้นถึง 86.2%
นายรณชิต มหิทธนะพฤกทธ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า หลังจากการดำเนินกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านกำไร ลดค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินการของธุรกิจโรงแรมและอาหารของ CENTEL ที่ได้ผลเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานในไตรมาส 2 ค่อนข้างจะโดดเด่น แม้ไตรมาสดังกล่าวจะเป็นช่วง low season และประเทศไทยยังคงปัญหาเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภาคการส่งออกที่ยังคงติดลบ รวมถึงปัญหาโรคเมอร์ส แต่จำนวนนักท่องเที่ยวในไทยก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคน ในไตรมาส 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับที่เคยมี 5 ล้านคนในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปีนี้ ธุรกิจโรงแรมของ CENTEL จะมีอัตราการเข้าพักในห้องพักของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 77% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีเพียง 69% โดยเป็นผลมาจากโรงแรมที่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นตัวช่วยผลักดันการฟื้นตัวหลังประเทศผ่านพ้นปัญหาทางการเมืองเมื่อปีก่อน
โดยภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 2 /58 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58 นั้น CENTEL มีรายได้รวมทั้งธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 4,536.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.6% ทั้งนี้ รายได้รวมในรอบครึ่งแรกของปี 2558 จะมีทั้งสิ้น 8,873 ล้านบาท เมื่อเทียบกันรายได้รวมครึ่งแรกของปี 2557 ที่เคยมีอยู่ทั้งสิ้น 9,692 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักภาษี (EBITDA) ในไตรมาส 2 ของปีนี้จะอยู่ที่ 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมากแรกของปีเดียวกัน 31.8% ขณะที่ส่วนต่าง EBITDA ในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 18.5% จากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 14.7% ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของบริษัทก็ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสแรกด้วยเช่นกัน โดยปิดที่ 246.2 ล้านบาทซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างมากถึง 492.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558
สำหรับการคาดหมายแนวโน้มการทำธุรกิจในช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปีนี้ CENTEL ย้ำว่าน่าจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก พร้อมทั้งคาดหมายว่าอัตราการเจริญเติบโตของยอดรายได้โดยรวมน่าจะถึง 14% เมื่อเทียบกับที่เคยเติบโตได้ถึง 10% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
อย่างไรก็ดี แม้จะมีเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่บริษัทก็ยังเชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบแค่ในระยะสั้นๆ อีกทั้งหลังเกิดเหตุระเบิดจะทำให้เกิดผลกระทบให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพัก และแผนการจัดการประชุมในโรงแรมบ้างก็ตาม แต่สัดส่วนดังกล่าวถือว่าเล็กน้อยคือมีเพียง 1% และหลังจากผ่านเหตุการณ์มาได้ช่วงหนึ่งยอดการจองที่พักของ CENTEL ก็เริ่มจะกลับมาบ้างแล้ว ตัวเลขล่าสุดยอดการจองห้องพักทะยอยปรับขึ้นถึง 86.2%
นายรณชิต มหิทธนะพฤกทธ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า หลังจากการดำเนินกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านกำไร ลดค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินการของธุรกิจโรงแรมและอาหารของ CENTEL ที่ได้ผลเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานในไตรมาส 2 ค่อนข้างจะโดดเด่น แม้ไตรมาสดังกล่าวจะเป็นช่วง low season และประเทศไทยยังคงปัญหาเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภาคการส่งออกที่ยังคงติดลบ รวมถึงปัญหาโรคเมอร์ส แต่จำนวนนักท่องเที่ยวในไทยก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคน ในไตรมาส 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับที่เคยมี 5 ล้านคนในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปีนี้ ธุรกิจโรงแรมของ CENTEL จะมีอัตราการเข้าพักในห้องพักของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 77% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีเพียง 69% โดยเป็นผลมาจากโรงแรมที่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นตัวช่วยผลักดันการฟื้นตัวหลังประเทศผ่านพ้นปัญหาทางการเมืองเมื่อปีก่อน
โดยภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 2 /58 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58 นั้น CENTEL มีรายได้รวมทั้งธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 4,536.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.6% ทั้งนี้ รายได้รวมในรอบครึ่งแรกของปี 2558 จะมีทั้งสิ้น 8,873 ล้านบาท เมื่อเทียบกันรายได้รวมครึ่งแรกของปี 2557 ที่เคยมีอยู่ทั้งสิ้น 9,692 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักภาษี (EBITDA) ในไตรมาส 2 ของปีนี้จะอยู่ที่ 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมากแรกของปีเดียวกัน 31.8% ขณะที่ส่วนต่าง EBITDA ในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 18.5% จากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 14.7% ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของบริษัทก็ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสแรกด้วยเช่นกัน โดยปิดที่ 246.2 ล้านบาทซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างมากถึง 492.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558
สำหรับการคาดหมายแนวโน้มการทำธุรกิจในช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปีนี้ CENTEL ย้ำว่าน่าจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก พร้อมทั้งคาดหมายว่าอัตราการเจริญเติบโตของยอดรายได้โดยรวมน่าจะถึง 14% เมื่อเทียบกับที่เคยเติบโตได้ถึง 10% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
อย่างไรก็ดี แม้จะมีเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่บริษัทก็ยังเชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบแค่ในระยะสั้นๆ อีกทั้งหลังเกิดเหตุระเบิดจะทำให้เกิดผลกระทบให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพัก และแผนการจัดการประชุมในโรงแรมบ้างก็ตาม แต่สัดส่วนดังกล่าวถือว่าเล็กน้อยคือมีเพียง 1% และหลังจากผ่านเหตุการณ์มาได้ช่วงหนึ่งยอดการจองที่พักของ CENTEL ก็เริ่มจะกลับมาบ้างแล้ว ตัวเลขล่าสุดยอดการจองห้องพักทะยอยปรับขึ้นถึง 86.2%
