โบรกฯ เผยหุ้นไทยปรับลงตามภูมิภาค ระบุปัจจัยกดดันภายนอกเข้ามาเพิ่มขึ้น แนวโน้มยังคงผันผวน เนื่องจากปัจจัยลบที่กดดันยังมีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีฯ ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ภาคเช้าปรับตัวลงตามกันหมด เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในวันนี้ซบเซา หลังมีปัจจัยกดดันจากภายนอกเพิ่มเข้ามามากขึ้น อย่างเช่น การโจมตีกันระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่นักลงทุนยังให้ความกังวลอยู่ คือ แนวโน้มของเศรษฐกิจในประเทศจีนที่ชะลอตัว และตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลง
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,361.23 จุด ลดลง 11.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 21,298.22 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย น.ส.ธีรดา คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยน่าจะยังคงแกว่งตัวในแดนลบเช่นเดียวกับช่วงเช้า เนื่องจากปัจจัยลบที่กดดันยังมีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวลงจะมีกองทุน LTF-RMF เข้ามาเก็บ ซึ่งช่วยหนุนตลาดให้ไม่ปรับตัวลงอย่างมาก พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,350 จุด แนวต้าน 1,370-1,380 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีฯ ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ภาคเช้าปรับตัวลงตามกันหมด เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในวันนี้ซบเซา หลังมีปัจจัยกดดันจากภายนอกเพิ่มเข้ามามากขึ้น อย่างเช่น การโจมตีกันระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่นักลงทุนยังให้ความกังวลอยู่ คือ แนวโน้มของเศรษฐกิจในประเทศจีนที่ชะลอตัว และตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลง
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,361.23 จุด ลดลง 11.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 21,298.22 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย น.ส.ธีรดา คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยน่าจะยังคงแกว่งตัวในแดนลบเช่นเดียวกับช่วงเช้า เนื่องจากปัจจัยลบที่กดดันยังมีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวลงจะมีกองทุน LTF-RMF เข้ามาเก็บ ซึ่งช่วยหนุนตลาดให้ไม่ปรับตัวลงอย่างมาก พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,350 จุด แนวต้าน 1,370-1,380 จุด