xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทย -11.81 จุด กสิกรไทยจ่อปรับ GDP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (11 สิงหาคม 2558) ปิดที่ 1,408.32 จุด ลดลง 11.81 จุด (-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 33,900.05 ล้านบาท โดยดัชนีวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาคหลังจีนปล่อยค่าเงินหยวน กสิกรไทยเตรียมทบทวนเป้า GDP หลังเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุด มองกรอบต่ำที่ 2.3% แนะรัฐเพิ่มแนวทางลดหย่อนภาษีระยะสั้นกระตุ้นสภาพคล่อง มองกรอบดัชนี หากเฟดมีความชัดเจน หุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นแตะ 1,500-1,550 จุด

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีความท้าทาย แม้จะผ่านช่วงที่ต่ำสุดในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแล้ว โดยมองว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 3 จะเติบโตร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบจากไตรมาสที่ 2 และเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตร้อยละ 1.4 ซึ่งภาคการท่องเที่ยว ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ยังเป็นความหวังของเศรษฐกิจไทย ที่จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP ในปีนี้เติบโตอยู่ในกรอบร้อยละ 2.3-2.8 แต่ทั้งนี้ กสิกรไทยจะประเมินและทำการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากภาคการส่งออก การบริโภคในประเทศที่ชะลอจากภาวะหนี้ครัวเรือน และการเบิกจ่ายของภาครัฐที่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากในช่วงนี้ เกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนกันยายนนี้ โดยมองกรอบค่าเงินบาทจะอยู่ในกรอบ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


นอกจากนี้ นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า ภาครัฐควรพิจารณาเพิ่มแนวทางการลดหย่อนมาตรการภาษีระยะสั้น เช่น ภาคการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงที่ชะลอขณะนี้

ด้าน นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้จะยังทรงตัว จนกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่า ในช่วงต้นไตรมาส 4 แรงซื้อต่างชาติจะเริ่มไหลกลับเข้ามา เพราะความชัดเจนในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และความคาดหวังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมทั้งจะเริ่มเห็นการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจน ซึ่งดัชนีปีนี้จะกลับขึ้นไปแตะที่ 1,500-1,550 จุด ในปลายปีนี้ได้ ส่วนกรอบแนวรับต่ำสุดอยู่ที่ 1,370 จุด ซึ่งถือเป็นโอกาสการเข้าลงทุน โดยหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ วัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการประมูล 4 จี กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นที่ฟื้นตัวจากการบริโภคของประชาชน และหุ้นพลังงานที่จะฟื้นในช่วงไตรมาส 4

ส่วนกรณีที่จีนประกาศลดค่าเงินหยวนประมาณร้อยละ 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ มองว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินในเอเชียให้ปรับลดลงในระยะสั้น แต่ในระยะกลาง และระยะยาว ไทยจะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

กำลังโหลดความคิดเห็น